อย่างนี้ก็มี! หนุ่มถูกคนไม่รู้จักแจ้งตายนานกว่า 1 ปี ทำเบิกค่ารักษาโควิดไม่ได้
นายชาญ พวงกลาง อายุ 55 ปี ชาวอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.วิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เจ้าตัวเปิดเผยข้อมูลที่ขำไม่ออก เมื่อรู้ภายหลังว่าตนเองมีคนที่ไม่เคยรู้จัก ไปแจ้งออกใบมรณบัตร โดยเอกสารระบุ ถูกแจ้งตายเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ซึ่งใบมรณบัตรออกให้โดยสำนักงานที่ว่าการอำเภอเมืองจันทบุรี
ในเอกสารยังระบุ ถูกแจ้งมรณบัตรที่บ้านเลขที่ 20/16 หมู่ 1 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี สถานที่จัดพิธีฌาปนกิจศพ มีขึ้นที่วัดโค้งสนามเป้า ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี โดยมีนายศานติ พวงกลาง เป็นผู้แจ้งการออกใบมรณบัตร ในครั้งนี้ ซึ่งจากการดูเอกสารใบมรณบัตร ที่ถูกออกโดย ที่ว่าการอำเภอเมืองจันทบุรี พบว่า นายชาญ พวงกลาง ถูกแจ้งตายเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 หรือก็คือนานกว่า 1 ปี แล้ว
วันนี้เจ้าตัวจึงโร่แจ้งความหวังเรียกสิทธิต่างๆ ของตัวเองคืน ส่วนสาเหตุที่เกิดความผิดพลาดว่าถูกคนไม่รู้จัก แต่มีนามสกุลเดียวกันแจ้งตายนั้น เจ้าตัวยังไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ตัวนายชาญเอง จะต้องทำการกลับไปกักตัวเอง 14 วัน เสียก่อน เนื่องจากมีประวัติอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
จากการสอบถาม นายชาญ พวงกลาง เล่าว่า ตนเองมาทราบเรื่อง ว่าตนเองถูกออกใบมรณบัตร ช่วงเดือนที่แล้ว หลังติดโควิด แล้วไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ต้องได้จ่ายเงินเอง 50,000 เพราะเช็คสิทธิ์ในบัตร แล้วถูกแจ้งตาย ใช้สิทธิไม่ได้ ตนเองถึงรู้ว่าถูกคัดชื่อเป็นคนตาย มีใบมรณบัตรเรียบร้อย ซึ่งคนที่แจ้งตาย ตนเองก็ไม่รู้จัก ไม่ได้เป็นญาติ แจ้งตายไว้ที่จันทบุรี ตนเองจึงเอาบัตรประชาชนมาตรวจสอบ ในระบบทะเบียนราษฎร์ ที่อำเภอวิเชียรบุรี ก็พบว่าถูกแจ้งตาย จึงนำหลักฐานมาแจ้งความที่ สภ.วิเชียรบุรี ว่ามีบุคคล ทำให้ตนเสียหายและเสียสิทธิทุกอย่าง จนต้องมาเริ่มต้นทำบัตรใหม่
ขณะที่ ที่ว่าการอำเภอวิเชียรบุรี ได้เปิดเผยข้อมูลว่าการออกบัตรประชาชนและคืนสิทธิต่างๆ ให้กับนายชาญ พวงกลาง ทำได้ไม่ยาก แค่ทำการตรวจสอบพยานเอกสาร และพยานบุคคล ที่อ้างอิง เช่น พ่อแม่ ครู ผู้ใหญ่บ้าน ก็สามารถคืนสิทธิ ให้ได้แล้ว แต่เนื่องจากนายชาญ เพิ่งหายป่วยจากการติดโควิด ประกอบกับที่อยู่อาศัยปัจจุบันของนายชาญ มีผู้ติดเชื้อโควิด ทางอำเภอวิเชียรบุรี จึงขอให้นายชาญทำการกักตัวตามมาตรการควบคุมโรค และขอให้มาพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ เพื่อทางอำเภอจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ นายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอวิเชียรบุรี เผยว่า เรื่องราวเกิดขึ้น ที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเรื่องนี้ จะสอบสวน 2 ประเด็น คือ มีการแจ้งตายแล้วเอาหลักฐานของเขาไปใช้ เราต้องตรวจสอบว่าตัวผู้ที่มาแจ้ง ใช่ผู้ถูกสวมสิทธิตัวจริงหรือเปล่า และเมื่อตรวจสอบพยานบุคคล พยานเอกสารแล้วเชื่อว่าถูกสวมสิทธิตัวจริง เราก็คืนรายการให้ แล้วก็ส่งเรื่องผู้ที่สวมตัวไปดำเนินคดีต่อไป แต่เนื่องจากผู้ที่ถูกสวมตัวนั้นติดโควิด-19 ที่จันทบุรี แล้วรักษาหาย พอมาถึงนี่ พบว่ายังไม่ได้ฉีดวัคซีน แล้วเดินทางกลับมาจากจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูง ต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 30 ก็ได้แจ้งเขาไปแล้ว เมื่อครบกำหนดกักตัว ให้มาพร้อมพยานเอกสารและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่ยืนยันว่าเป็นคนวิเชียรบุรีและถูกสวมสิทธิตัวจริง เมื่อเอกสารต่างๆ น่าเชื่อได้ว่า เขาถูกสวมตัวจริง เราก็คืนรายการให้ ในทะเบียนบ้าน มีบัตรประจำตัวประชาชน และขณะเดียวกัน เราก็ทำเรื่องดำเนินคดีไปให้ทางส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมผู้ที่สวมสิทธิ์ต่อไป