นายนาฟตาลี เบนเนตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (28 พ.ย.) ว่า อิสราเอลเตรียมห้ามชาวต่างชาติทุกคนเดินทางเข้ามาในประเทศ มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนนี้หรือเวลา 00.00 น. วันจันทร์ (29 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น และมีผลนาน 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่รระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แบบกลายพันธุ์ชนิดโอมิครอน (Omicron)

นายเบนเนตต์ เผยว่าจะนำเทคโนโลยีการติดตามโทรศัพท์สำหรับการต่อต้านการก่อการร้ายมาใช้ เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันไวรัสแบบกลายพันธุ์ชนิดนี้ด้วย

ด้านนางอะเยเลต ชาเกด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอิสราเอล กล่าวว่า แผนการควบคุมโรคของอิสราเอลในตอนนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าไวรัสชนิดโอมิครอนกระจายไปเกือบทุกประเทศบนโลกแล้ว และสมมติฐานว่าวัคซีนยังมีประสิทธิภาพแต่ไม่รู้ว่าประสิทธิภาพมีอยู่แค่ไหน

นายเบนเนตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวเสริมว่า พลเมืองอิสราเอลที่จะประเทศนั้น นอกจากจะต้องได้รับวัคซีนครบแล้ว จะต้องกักตัวด้วย

ก่อนหน้านี้ อิสราเอลสั่งห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกาเข้าประเทศแล้วเมื่อวันศุกร์ (26 พ.ย.)

ด้านองค์การอนามัยโลกระบุก่อนหน้านี้ให้ไวรัสโคโรนาแบบกลายพันธุ์ชนิดโอมิครอน ที่ตรวจพบครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้ เป็นชนิดที่น่ากังวล เพราะพบว่ามีการกลายพันธุ์มากถึง 32 จุด ที่อาจส่งผลให้หลบหลีกภูมิคุ้มกันและแพร่กระจายได้ดีมากกว่าชนิดที่พบก่อนหน้านี้