สาเหตุ “กลิ่นปาก” ที่คุณอาจไม่เคยรู้ พร้อมวิธีแก้ด้วยตนเอง
สาเหตุ “กลิ่นปาก” ที่คุณอาจไม่เคยรู้
– มีฝ้าขาวบนลิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โคนลิ้นด้านใน
– ฟันผุ ยิ่งฟันผุเป็นรูลึก ยิ่งมีกลิ่นเหม็นมาก หรือมีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามซอกฟัน
– โรคเหงือกอักเสบ เกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีแผ่นคราบฟันและหินปูนสะสม หากไม่ได้รับการรักษาโรคเหงือกอักเสบก็จะลุกลามมากขึ้นกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบซึ่งจะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงยิ่งขึ้น
– ภาวะปากแห้ง น้ำลายน้อย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ เมื่อมีน้ำลายน้อย เชื้อโรคต่างๆจะตกค้างอยู่ในช่องปากเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดกลิ่นมากขึ้น
– สาเหตุจากระบบทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่เกิดจากการมีน้ำมูกไหลลงคอทางด้านหลังโพรงจมูก และการมีเศษอาหารติดอยู่ตามร่องของต่อมทอนซิล
– สาเหตุจากระบบทางเดินทางอาหาร ส่วนใหญ่เกิดจากการมีแบคทีเรียส่วนเกินในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ซึ่งมักจะมีอาการท้องอืด แน่น เรอมีกลิ่นเหม็น นอกจากนี้อาหารบางชนิดเมื่อรับประทานจะมีกลิ่นขับออกมาทางลมหายใจ เช่น กระเทียม ทุเรียน หัวหอม เครื่องเทศ ผู้ที่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ หรือท้องผูกหลายๆ วัน ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้
วิธีแก้กลิ่นปากด้วยตนเอง
– หมั่นดูแลทำความสะอาดในช่องปากเป็นประจำ ด้วยการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
– แปรงลิ้นทุกครั้งที่แปรงฟัน เพื่อขจัดคราบอาหารที่สะสมอยู่บนลิ้น
– พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจฟันผุ ขูดหินปูน
– ไม่ควรใส่ฟันปลอมนอน
– ทำความสะอาดฟันปลอมหรือรีเทนเนอร์ ด้วยแปรงสีฟันวันละ 2 ครั้ง และทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
– ดื่มน้ำ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
– อย่าปล่อยให้ปากแห้ง และการดื่มน้ำจะช่วยขจัดแบคทีเรียและช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในช่องปาก ช่วยขจัดคราบบนลิ้นและเสมหะในลำคอ ตลอดจนเศษอาหารที่ติดอยู่ตามร่องของทอนซิล และทำให้มีน้ำลายเพิ่มขึ้น