สธ.จ่อลด “โควิด” เหลือระดับ 2 ตั้งแต่ มิ.ย. ไม่ต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์
วันที่ 30 พ.ค. 2565 นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ โควิด-19 ว่า สำหรับสถานการณ์ของประเทศไทย ภาพรวมประเทศไทยตอนนี้สถานการณ์ลดลงคล้ายหลายประเทศในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลายประเทศปรับระบบรายงานเนื่องจากการติดเชื้อลดลง เข้าสู่การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ โดยเน้นติดตามผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจเป็นหลัก
ดังนั้นในวันที่ 1 มิ.ย. 65 นี้ ประเทศไทยจะมีการปรับระบบรายงานให้เข้ากับสถานการณ์ที่จะผ่อนคลายมากขึ้น ที่จะมีการเปิดผับบาร์ใน 31 จังหวัด หรือผ่อนคลายเรื่องอื่นๆ เพื่อจะได้วิเคราะห์ข้อมูลได้ชัดเจนมากขึ้น โดยปรับจากการรายงานผู้ติดเชื้อเป็นผู้ป่วย โดยจะรายงานจำนวนผู้ป่วยรายวันแบบเฉลี่ย 7 วัน เน้นผู้ป่วยที่มีอาการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตยังรายงานทุกวันต่อเนื่อง
เมื่อถามถึงกรณีการไม่ต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า สถานการณ์เข้าสู่การผ่อนคลายมากขึ้น จึงเน้นผู้ป่วยเป็นหลัก โดยตั้งแต่วันที่ 1 มินายน จะรายงานจากฐานผู้ป่วย ไม่ใช่ฐานติดเชื้อ เพื่อเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังในโรคที่ความรุนแรงลดลงแล้ว ซึ่งเดิมเป็นโรคติดต่ออันตราย ดังนั้น การใช้ ATK ในกลุ่มเสี่ยงต่ำ เช่น วัยทำงาน ความจำเป็นในการตรวจก็ลดลง
ยกเว้นกลุ่มเสี่ยง 608 กลุ่มที่อาจแพร่ระบาดวงกว้างได้ง่าย ต้องตรวจประจำ โดยการตรวจ ATK จะเหลือประมาณ 3 ข้อ
1)ตรวจเมื่อมีอาการว่าใช่หรือไม่
2)ตรวจสำหรับคนดูแลใกล้ชิดคนเสี่ยงสูง คือ ผู้ดูแลผู้สูงอายุและเด็กเล็กที่ไม่ได้ฉีดวีคซีนอาจติดเชื้อเสียชีวิตได้
3)สถานที่และกิจกรรมที่อาจมีการรวมตัวกัน บุคคลสำคัญ
เมื่อถามต่อว่าผู้ป่วยเจอแจกจบจะไม่อยู่ในรายงานใช่หรือไม่ นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ผู้ป่วยเข้าระบเจอแจกจบ OPSI จะอยู่ในการลงทะเบียนเข้ารับการรักษาผ่าน สปสช. ทั้งนี้การตรวจด้วย RT-PCR หรือ ATK ก็เท่ากันแล้ว เพราะไม่ได้รายงานจากฐานการติดเชื้อ เราผ่อนคลายประเทศและมาตรการ แต่ช่วงปรับระบบ 1-2 สัปดาห์แรกอาจจะติดขัดบ้างบางที่
ส่วนเรื่องพิจารณาลดเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 2 จะทำทั้งประเทศหรือบางจังหวัด นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ขอปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารก่อน ว่าจะปรับจังหวัดไหนหรือทั้งประเทศ ตอนนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูล