สพฉ.แจงปรับเกณฑ์ UCEP Plus ใหม่ เริ่ม 1 ต.ค. เหลือเฉพาะ “โควิด” อาการสีแดง
วันที่ 28 ก.ย. 65 ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) แถลงข่าวสิทธิ UCEP Plus หลังโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2560 ประเทศไทยให้สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตรักษาทุกที่สามารถเข้า รพ.เอกชนได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย รับการดูแลรักษา 72 ชั่วโมง แต่หากไม่เข้าเกณฑ์เข้า รพ.เอกชนก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ช่วงการระบาดของโควิด รัฐบาลต้องการอำนวยความสะดวกให้รับบริการทั่วถึงเท่าเทียม จึงกำหนด UCEP COVID ทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด ไม่ว่ามีหรือไม่มีอาการ หรือจะเป็นอาการสีเขียว เหลือง หรือแดง ก็ใช้สิทธินี้ได้ จนเมื่อวันที่ 16 มี.ค.65 ได้ปรับเป็น UCEP Plus กำหนดเฉพาะผู้ป่วยโควิดอาการสีเหลืองและสีแดง ส่วนอาการสีเขียวจะไม่ครอบคลุมแล้ว โดยกลับไปดูแลรักษาตามสิทธิ และเมื่อประกาศโรคโควิด เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มีผลวันที่ 1 ต.ค.นี้ จึงปรับปรุงเกณฑ์ UCEP Plus ใหม่
“หลังวันที่ 1 ต.ค.นี้ UCEP Plus ยังอยู่ แต่ปรับเกณฑ์พิจารณาลดลง ซึ่งเดิมจะรวมกลุ่มอาการสีเหลือง เช่น กลุ่ม 608 ที่ไม่มีอาการด้วย แต่ UCEP Plus ใหม่จะเหลือเฉพาะกลุ่มโควิดอาการวิกฤตสีแดง เช่น มีภาวะหัวใจหยุดเต้น ทางเดินหายใจอุดกั้น หายใจหอบเหนื่อย มีภาวะที่ทำให้ระบบทางเดินหายใจรุนแรง ไม่สามารถหายใจได้ มีอาการช็อก ภาวะความดันโลหิตต่ำ หรืออาการอื่นๆ ที่นำไปสู่การเสียชีวิตโดยเร็ว” ร.อ.นพ.อัจฉริยะ กล่าว
ร.อ.นพ.อัจฉริยะ กล่าวต่อว่า สพฉ.จะออกประกาศเกณฑ์รายละเอียดวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อให้ประชาชนและสถานพยาบาลรับทราบเป็นเกณฑ์เดียวกัน กรณีมีข้อสงสัยหรือข้อคิดเห็นไม่ตรงกัน สพฉ.มีศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต 0-2872-1669 เป็นตัวกลางระหว่างประชาชนและสถานพยาบาล ให้ข้อวินิจฉัยหรือคำแนะนำ ทั้งนี้ UCEP Plus จะมีเงื่อนไขต่างจาก UCEP คือ รักษาจนกว่าจะหายไม่จำกัด 72 ชั่วโมงแรก อัตราการจ่าย UCEP Plus จะจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 25% ซึ่งเป็นการตกลงระหว่างเอกชนและกองทุน
ร.อ.นพ.อัจฉริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการใช้สิทธิ UCEP Plus ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.65 – ปัจจุบัน มีประชาชนเจ็บป่วยเข้าสู่ระบบบริการ 383,258 ราย เข้าเกณฑ์ UCEP Plus 81,304 รายไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนไม่เข้าเกณฑ์ 301,954 ราย โดยมาจากสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2 แสนราย ประกันสังคม 1.4 แสนราย ข้าราชการ 4 หมื่นราย และอื่นๆ 3 พันราย อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าแม้การระบาดจะไม่รุนแรงมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ การป้องกันยังสำคัญ โดยขอให้ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะคนจำนวนมาก หากเจ็บป่วยโควิดอาการสีเขียว ไม่ต้องรักษาหรือรักษาใน รพ.พื้นที่ใกล้บ้านตามสิทธิ