หัวหน้าทีมรับมือโควิด-19 ของจีนยืนยัน การแพร่ระบาดจบแล้ว
โกลบอลไทมส์ – การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนโดยทั่วไปถือว่ายุติแล้ว แม้ยังพบผู้ติดเชื้ออยู่ประปรายก็ตาม
นายเหลียง ว่านเหนียน หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญในการรับมือโรคโควิด-19 แพร่ระบาดของจีน ออกมาแถลงดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสฯ (23 ก.พ.) พร้อมกับระบุว่า จีนประสบชัยชนะครั้งใหญ่ในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 มาตั้งแต่เดือน พ.ย.2565
เขาอธิบายเกณฑ์ในการตัดสินว่าจีนได้ก้าวพ้นจากการแพร่ระบาดแล้ว โดยพิจารณาจากดัชนีหลายตัว เช่น อัตราการติดเชื้อ ระดับภูมิคุ้มกันในหมู่ประชาชน การกลายพันธุ์ของโรค ความสามารถในการรองรับผู้ป่วยของสถานพยาบาล และดัชนีชี้วัดตัวสุดท้ายคือความสามารถในการควบคุมและป้องกันโดยรวมทั้งหมด
นายเหลียง ระบุว่า ชัยชนะครั้งใหญ่นี้หมายถึงการที่จีนสามารถทนทานกับบททดสอบจากการแพร่ระบาดรอบล่าสุดมาได้ และมีการสร้างปราการภูมิคุ้มกันขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่ประชาชน
อย่างไรก็ตาม โรคโควิด-19 ระบาดในจีนมิได้หายไป 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงมีการติดเชื้อในท้องถิ่นอยู่ประปรายเป็นพักๆ โดยหลังจากองค์การอนามัยโลกประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดใหญ่เมื่อเดือน มี.ค.2563 และตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อสิ้นเดือน ม.ค.2564 นั้น จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำประกาศ และในมุมมองระดับโลก โควิด-19 ยังคงมีสถานะโรคระบาดใหญ่ ดังนั้น ภัยคุกคามจากโควิด-19 จึงยังคงมีอยู่
การแถลงของนายเหลียง มีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ประชุมคณะผู้บริหารสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคเป็นประธาน ได้ประกาศชัยชนะเหนือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเด็ดขาด โดยที่ประชุมระบุว่า มาตรการควบคุมป้องกันอย่างเป็นพิเศษของจีนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาช่วยชะลออัตราการเสียชีวิตของประชาชนในประเทศให้อยู่ระดับต่ำสุดในโลก
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของจีนเมื่อวันที่ 15 ก.พ. จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในโรงพยาบาลลดลงเหลือ 9 คน เมื่อวันที่13 ก.พ. ซึ่งลดลงร้อยละ 99.8 จากช่วงที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด โดยนับตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2565 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดจำนวน 6 ล้าน 9 แสน 4 หมื่นคนภายในวันเดียวคือ วันที่ 22 ธ.ค.2565 จากนั้นก็ค่อยๆ ลดลงเหลือ 8,847 คนเมื่อวันที่ 13 ก.พ. สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วประเทศเริ่มนิ่งและโอกาสที่จะเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่รอบใหม่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน