เฮ! ผู้เชี่ยวชาญในจีนเผย โควิด-19 บนแผ่นดินใหญ่หมดแรงระบาด ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชื่อดังของจีนระบุ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีนเข้าสู่ขั้นตอนที่เชื้อมีความชุกอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ดังนั้น การสวมหน้ากากป้องกันจึงกลายเป็นมาตรการที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป โดยอาจเลือกสวมหรือไม่สวมก็ได้ในขณะนี้
นายจาง เวินหง หัวหน้าศูนย์โรคติดเชื้อของโรงพยาบาลหัวซาน แห่งมหาวิทยาลัยฟูตัน ในนครเซี่ยงไฮ้ กล่าวในการประชุมฟอรัมผู้นำยุวชนเอเชีย 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง ทางภาคใต้ของจีนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า มนุษย์เราได้สร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้ว และประเทศจีนจะก้าวออกจากสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขอันเนื่องมาจากโควิด-19 ได้ในอีกไม่ช้า
“ระบบสาธารณสุขของจีนอดทนกับปัญหาท้าท้ายอันใหญ่หลวงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็รอดมาได้ องค์การอนามัยโลกประกาศว่า ผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 มีจำนวนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้ ผมจึงเชื่อว่า การก้าวออกจากสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีโควิด-19 ของเราเป็นสิ่งที่อยู่ไม่ห่างไกล” นายจาง ระบุ
ทั้งนี้ นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2566 โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า องค์การอนามัยโลกจะสามารถประกาศการสิ้นสุดของสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวได้ในปีนี้
จากรายงานของสื่อฮ่องกง เขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้ประกาศยกเลิกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากาก ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2566 เนื่องจากฮ่องกงสามารถควบคุมความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทั้งหมด ดังนั้น ประชาชนจึงไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ภายในอาคาร หรือสถานที่กลางแจ้ง ตลอดจนในระบบขนส่งมวลชนอีกต่อไป ส่วนเขตบริหารพิเศษมาเก๊าประกาศยกเลิกคำสั่งการสวมหน้ากากตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.2566
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขบางคนแนะนำว่า จีนแผ่นดินใหญ่อาจผ่อนคลายข้อบังคับการสวมหน้ากากตามอย่างเขตบริหารพิเศษทั้งสอง แต่เมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ เช่น บ้านพักคนชรา และโรงพยาบาล การสวมหน้ากากยังอาจเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนั้น การสวมหน้ากากยังเป็นวิธีป้องกันตนเองที่มีประสิทธิภาพอย่างมากจากโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H1N1 ซึ่งมีโอกาสเกิดได้สูงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และประชาชนที่ไม่เคยติดเชื้อโควิด-19 ก็ควรสวมหน้ากากเพื่อเป็นการป้องกันตนเองต่อไป