วันที่ 5 พ.ค. 66 ทางการมณฑลไหหลำ หรือไห่หนัน แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในอำเภอและเมืองบางแห่งเมื่อเร็วๆ นี้ โดยกว่าร้อยละ 70 ติดเชื้อ XBB.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดยังอยู่ในขั้นพบการติดเชื้อเพียงประปราย และจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่ล้นหลามระบบการดูแลรักษาพยาบาลในท้องถิ่น โดยผู้เชี่ยวชาญขอให้ประชาชนเพิ่มการป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากในที่สาธารณะ หมั่นล้างมือ และรักษาระยะห่างทางสังคม

จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ไม่เฉพาะแต่ในมณฑลไหหลำ หลังจากประชาชนเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างคึกคักในช่วงวันหยุดแรงงานนาน 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-3 พ.ค. โดยมีการเดินทางทั่วประเทศทั้งสิ้น 274 ล้านเที่ยว ประชาชนหลายคนได้โพสต์ผลการตรวจหาเชื้อแบบ ATK บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ในระหว่างวันหยุด

ด้านผลการศึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งจีน พบว่า โอกาสที่สายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในมณฑลกวางตุ้ง หรือกว่างตง ทางภาคใต้อยู่ในระดับต่ำ โดยเป็นผลจากการศึกษาโอกาสการติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำ ในมณฑลดังกล่าวระหว่างเดือน ธ.ค.2565-ม.ค.2566

นอกจากนั้น รายงานผลการศึกษาอีกฉบับหนึ่งของศูนย์ดังกล่าว ซึ่งอาศัยข้อมูลจาก 189 ประเทศและดินแดนระบุว่า การระบาดรอบที่ 2 ของสายพันธุ์โอมิครอนมักเกิดขึ้นภายหลังการระบาดรอบแรก 5-7 เดือน

นายแพทย์ลี่ว์ ฟังฟัง แห่งโรงพยาบาลเซอร์รันรันชอว์ ในเครือโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ระบุว่า เชื้อสายพันธุ์ย่อยใหม่ เช่น XBB อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการแพร่ระบาดรอบที่ 2 แต่จะไม่เป็นวงกว้างเหมือนการแพร่ระบาดรอบแรก

บรรดาผู้เชี่ยวชาญของจีนคาดว่า การระบาดรอบที่ 2 ในจีนไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่สร้างภูมิคุ้มกันได้แล้ว หลังจากจีนเกิดการติดเชื้อครั้งใหญ่รอบแรกและมีการระดมฉีดวัคซีนเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยนายแพทย์หวัง กวงฝา ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจของมหาวิทยาลัยปักกิ่งคาดว่า การระบาดรอบที่ 2 อาจเกิดขึ้นในเดือน ก.ย.ที่จะถึง

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ (5 พ.ค.) องค์การอนามัยโลกได้ยกเลิกการประกาศให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังจากมีการประกาศมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2563 แต่ก็เตือนว่าไม่ควรประมาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่ยุติ