กรมควบคุมโรค เปิด 4 มาตรการป้องกัน “โควิด” วันเลือกตั้ง ย้ำให้สวมมาสก์ เตือนเปิดเทอมอย่าลืมคัดกรองเด็กทุกเช้า
วันที่ 11 พ.ค. 66 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิดในสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 30 เม.ย. – 6 พ.ค. 2566 พบผู้ป่วยรายใหม่รักษาใน รพ. 1,699 คน เฉลี่ย 242/วัน เสียชีวิต 10 คน มีภาวะปอดอักเสบ 219 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 113 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 โรคโควิด 19 ถูกปรับให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง แม้ปัจจุบันจะไม่เกิดเหตุการณ์การระบาดขนาดใหญ่ และองค์การอนามัยโลกประกาศยุติภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขแล้ว แต่โควิดยังไม่หายไปไหน ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายวัน ปัจจัยเสี่ยงการแพร่เชื้อยังคงเกิดจากการรวมกลุ่มทำกิจกรรม ฉะนั้น มาตรการป้องกันส่วนบุคคลยังสำคัญที่ควรปฏิบัติอยู่เสมอ โดยวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.นี้ จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ แต่ละหน่วยเลือกตั้งอาจมีการรวมตัวกันของประชาชนกันอย่างแออัด
กรมควบคุมโรคขอแนะนำประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดเคร่งครัด ป้องกันการติดเชื้อ ดังนี้ 1.สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะออกไปเลือกตั้ง 2. ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ก่อนเข้าและหลังออกจากหน่วยเลือกตั้ง 3.ใช้ปากกาส่วนตัว (หากมี) และ 4.เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน กองระบาดวิทยา คาดการณ์ว่าจะพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่และโควิดเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับวัคซีนคู่ป้องกันไข้หวัดใหญ่และโควิดเข็มกระตุ้น เพิ่มภูมิคุ้มกันโรคก่อนที่จะเข้าสู่ระยะการระบาด สามารถลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ฉีดพร้อมกันได้บริเวณต้นแขน 2 ข้าง ข้างละเข็ม มีความปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย โดยเฉพาะ 7 กลุ่มเสี่ยง ให้รีบเข้ารับวัคซีนโดยเร็ว เนื่องจากหากป่วยจะมีอาการหนักกว่ากลุ่มทั่วไป ได้แก่
1.หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กเล็กอายุ 6 เดือน-2 ปี 3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการบำบัด เบาหวาน) 4.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 5. ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 6.โรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และ 7.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
ทั้งนี้ สามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ส่วนสัปดาห์หน้าโรงเรียนจะเริ่มเปิดเทอม ขอความร่วมมือผู้ปกครองและครู ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด สถานศึกษาควรมีมาตรการคัดกรองและสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้า เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อทางเดินหายใจ เช่น โควิด ไข้หวัดใหญ่ มือ เท้า ปาก ที่มีอัตราป่วยสูงในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน