วันที่ 15 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบอนุมัติค่าตอบแทนเสี่ยงภัยจากงบกลาง วงเงิน 2,995.95 ล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในช่วง ก.ค.2564 – ครึ่งเดือนแรกของ มิ.ย.2565 ปรากฎว่ามีบุคลากรที่ปฏิบัติงานโควิดนอกสังกัด สธ.ให้ข้อมูลว่า มี รพ.บางแห่งนอกสังกัด สธ.หักเงินค่าเสี่ยงภัยจากเดิม โดยเข้าใจว่า เป็นเพราะ สธ.ที่หักหรือไม่

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องค่าเสี่ยงภัยโควิด ไม่ได้มีเพียงแค่ สธ.เท่านั้น ยังมีหน่วยงาน สถานพยาบาลนอกสังกัดอื่นๆ อีกจำนวนมาก โดย สธ.เป็นเพียงผู้รวบรวมข้อมูลหลักฐานการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น ซึ่งหน่วยงานนอกสังกัดจะส่งเรื่องเข้ามา ดังนั้น ประเด็นที่บอกว่ามีการหักค่าเสี่ยงภัยใดๆ นั้นไม่ใช่ สธ. เพราะเราพิจารณาตามหลักฐานการปฏิบัติงาน มีรายชื่อ มีข้อมูลหมด

“เราต้องรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานภายนอกด้วย ไม่ใช่แค่ของ สธ.เท่านั้น อย่างที่ผ่านมาค่าเสี่ยงภัยโควิดที่ล่าช้า ก็ไม่ใช่เพราะ สธ. เพราะเราต้องรอหน่วยงานอื่นๆ หากข้อมูลไม่ครบ สำนักงบประมาณก็ไม่พิจารณา ดังนั้น เราก็ต้องรอ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่เคยระบุว่า จะเบิกจ่ายให้ทุกหน่วยงานตั้งแต่ 29 ส.ค.2566 เป็นต้นไป และจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปีงบประมาณในวันที่ 30 ก.ย. 2566 พร้อมรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ให้รัฐมนตรีว่าการ สธ.และสำนักงบประมาณทราบภายใน 15 วันทำการถัดไป” นพ.โอภาส กล่าว

ถามว่ากรณีงบค่าเสี่ยงภัยโควิดส่วนที่ยังค้างจ่ายจะดำเนินการอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับงบประมาณที่ยังค้างจ่ายในรอบการปฏิบัติงานช่วงครึ่งเดือนหลัง มิ.ย. – ก.ย. 2565 ซึ่งสิ้นสุดการเป็นโรคติดต่ออันตราย จะต้องรอรัฐบาลใหม่ ซึ่ง สธ.จะขอรับการสนับสนุนในปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3,745 ล้านบาท ต่อ ครม.ชุดใหม่ต่อไป