กรมควบคุมโรค เตือนควันบุหรี่ไฟฟ้า เสี่ยงป่วยโรคหลอดลมอักเสบสูงถึง 3 เท่า
กรมควบคุมโรคเผยภัยควันบุหรี่ไฟฟ้า กระทบคนรอบข้าง เผยข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีจากสหรัฐ พบเพิ่มความเสี่ยงหายใจลำบาก และเสี่ยงหลอดลมตีบสูง 2.27 เท่า หายใจลำบากสูง 2.05 เท่า และอาการหลอดลมอักเสบสูงถึง 3 เท่า ขณะที่ไทยมีกฎหมายหากฝ่าฝืนสูบในที่สาธารณะมีโทษปรับ 5 พันบาท
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 66 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การได้รับควันจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากจะเกิดผลเสียต่อร่างกายของผู้สูบแล้วยังส่งผลอันตรายต่อคนรอบข้าง รวมถึงการฝ่าฝืนสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะยังเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมยาสูบโทษปรับสูงถึง 5,000 บาท
นพ.ธงชัย กล่าวว่า จากข้อมูลเกี่ยวกับควันบุหรี่ไฟฟ้าที่ปล่อยออกมา หรือที่เรียกว่า ควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสอง ภายในควันประกอบด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสารนิโคตินที่มีปริมาณสูง สารก่อมะเร็ง โลหะหนัก สารแต่งกลิ่นและรส รวมถึงสารประกอบอินทรีย์ โดยเฉพาะสารไดอะซิทิล (Diacetyl) ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งต่อผู้สูบและผู้ใกล้ชิด นอกจากนี้ มีการศึกษาย้อนหลัง 5 ปี ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้ามือสองจากคนในบ้านสูบบุหรี่ไฟฟ้า จะได้รับผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดอาการหายใจลำบาก และเสี่ยงหลอดลมตีบสูง 2.27 เท่า หายใจลำบากสูง 2.05 เท่า และอาการหลอดลมอักเสบสูงถึง 3 เท่า
นพ.ธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะ ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ฉะนั้น การสูบบุหรี่ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากจะเสียสุขภาพแล้วยังเสี่ยงต่อการถูกดำเนินการทางกฎหมาย จึงขอแนะนำนักสูบควรเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดหลอดลมอักเสบและอาการหายใจลำบาก โดยขอรับคำปรึกษาเพื่อเลิกบุหรี่ได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือขอรับคำปรึกษาที่ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ โทร. 1600 ฟรี หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค โทร 0 2590 3850