กรมควบคุมโรค ชงเพิ่ม “ยาทากันยุง” เป็นเวชภัณฑ์ ให้ รพ.เบิกจ่ายฟรีแก่ผู้ป่วยไข้เลือดออก
อธิบดีกรมควบคุมโรคผู้ป่วยไข้เลือดออก 80% กลับไปนอนรักษาที่บ้าน ไม่ได้ทายากันยุง เพิ่มเสี่ยงยุงลายกัดแล้วแพร่เชื้อต่อ หวังช่วยควบคุมโรค เตรียมจัดทำประกาศพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพปี 2567 จ่อประชุม คกก.โรคติดต่อสัปดาห์หน้า พร้อมเสนอ “ชลน่าน” ลงนาม
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2566 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพของประเทศไทยในปี 2567 ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติในสัปดาห์หน้า และจะเสนอให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พิจารณาลงนามออกประกาศต่อไปว่า สถานการณ์โรคของปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และปีหน้าคาดการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่เราติดตามดูสถานการณ์โรคติดต่อของปีนี้ ก็ถือว่าเป็นไปตามการพยากรณ์โรคเอาไว้ อย่างที่ปลายปี 2555 เราบอกว่า ปี 2566 จะมีการระบาดของ “โรคไข้เลือดออก” ก็มีการระบาดในปีนี้ที่พบแนวโน้มสูงขึ้นมาอย่างมาก แต่จากที่เรามีการพยากรณ์และคาดการณ์ไว้ จึงมีการเตรียมพร้อมมาตรการเพื่อควบคุมโรค ซึ่งจากมาตรการควบคุมโรคต่างๆ ก็ทำให้เราสามารถควบคุมโรคได้ค่อนข้างดี
“เรามีการเพิ่มหลายๆ เรื่อง อย่างวันนี้เราก็เริ่มคุยกันว่า โรคไข้เลือดออก อยากให้ยาทากันยุงเป็นเวชภัณฑ์ในการป้องกันตัวหนึ่ง เพราะพวกเราไม่ได้ทายากันยุงกัน เวลารักษาโรคไข้เลือดออก ส่วนใหญ่ไม่ได้นอนใน รพ.ทั้งหมด 80% กลับไปนอนรักษาที่บ้าน แล้วไม่ได้ทายากันยุงในคนป่วย แม้จะมีการพ่นยาฆ่ายุงตัวแก่ไปแล้ว แต่ถ้าสมมติมีลูกน้ำขึ้นมาเป็นยุงใหม่ เมื่อยุงมากัดคนที่มีเชื้อรักษาที่บ้าน ก็มีโอกาสไปกัดคนอื่นแล้วแพร่เชื้อต่อได้ ปลายปี 2566 นี้เราเริ่มรณรงค์ให้ใช้ยาทากันยุง เหมือนที่เรารณรงค์เรื่องของการป้องกันตัวไรอ่อน เมื่อเวลาไปเที่ยวช่วงหน้าหนาวและมักไปนอนกางเต็นท์ ซึ่งไรอ่อนจะทำให้เกิดโรคไข้รากสาดน้อย ถ้าไปนอนแล้วทายากันยุงพวกนี้ก็จะป้องกันแมลงพวกนี้มากัดได้” นพ.ธงชัยกล่าว
ถามย้ำว่าที่จะให้ยาทากันยุงเป็นเวชภัณฑ์ หมายถึงเมื่อป่วยไข้เลือดออกแล้วจะให้ รพ.จ่ายยาทากันยุงกลับไปทาป้องกันใช่หรือไม่ นพ.ธงชัยกล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังรณรงค์เรื่องนี้ แต่เนื่องจากยากันยุงยังไม่สามารถเบิกได้ ยังไม่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ก็ต้องไปขับเคลื่อนให้เข้าไปอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองก่อน ซึ่งทางกรมควบคุมโรคจะนำเสนอข้อมูลทางวิชาการไปให้ทางบัตรทองพิจารณาเข้าสู่สิทธิประโยชน์ เพื่อเบิกจ่ายได้ต่อไป