สธ.ขานรับนโยบายนายกฯ ให้ อย.-สสจ. ปรับปรุงกฎระเบียบ หนุนเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ
“หมอชลน่าน” เปิดประชุมความร่วมมือเครือข่ายเพื่อพัฒนางานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ให้ อย.ร่วมกับ สสจ. สร้างกลไกการทำงานเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว ด้วยมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ส่งเสริมภาคธุรกิจให้พัฒนาสู่ตลาดโลก
วันนี้ (26 มกราคม 2567) ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จังหวัดอุบลราชธานี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมความร่วมมือเครือข่ายเพื่อพัฒนางานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยมีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศที่รับผิดชอบงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพกว่า 300 คน เข้าร่วมประชุม
นพ.ชลน่าน เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีหน้าที่สำคัญด้านหนึ่ง คือ การกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพให้มีคุณภาพความปลอดภัยและมีระบบคุ้มครองผู้บริโภคที่ดี ขณะเดียวกัน สธ.ได้รับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นข้อจำกัดหรืออุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจสามารถผลิตและขายผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง จึงได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ร่วมกันสร้างกลไกการทำงานเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ ในเรื่องการพิจารณาอนุญาตให้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
“การประชุมครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพจากทั่วประเทศจะได้ประสานการทำงานแบบไร้รอยต่อ ปรับรูปแบบและทิศทางการดำเนินงานร่วมกัน ตลอดจนเร่งผลักดันนโยบายการดำเนินงานที่สำคัญของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจสุขภาพ “QUICK WIN 100 วัน 100 ผลิตภัณฑ์” และการส่งเสริมร้านยาคุณภาพ รองรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”
ด้าน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อย. และ สสจ. ต้องร่วมมือกันเป็นเครือข่ายที่แข็งแกร่งในการตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างทั่วถึง รวมทั้งการส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถผลิตสินค้าออกสู่ตลาดในประเทศและตลาดโลก ซึ่งการประชุมครั้งนี้ อย. ได้มีการหารือแนวทางยกระดับการพัฒนางานคุ้มครองผู้บริโภคฯ กับส่วนภูมิภาค โดยเสนอแนวทางการทำงานร่วมกันในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการอนุมัติ อนุญาต การให้คำปรึกษาขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวก รวดเร็ว มีมาตรฐานเดียวกัน และเห็นภาพเป้าหมายเดียวกันทั้งประเทศ ตามเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่ง อย. และ สสจ. มุ่งมั่น.ดำเนินงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย ผู้ประกอบการพัฒนาไกล และระบบคุ้มครองสุขภาพไทยยั่งยืน