กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายเปิดผนึกจี้ อย. ทบทวนใบอนุญาตใช้วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA
กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เรื่อง ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA vaccine มีรายละเอียดดังนี้
ตามที่ท่านได้ให้ข่าวเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 พาดหัวข่าว “อย. ย้ำ วัคซีนโควิด-19 มีความปลอดภัย ผ่านการประเมินคุณภาพ” นั้นเป็นการให้ข้อมูลกับสังคมโดยมิได้คำนึงข้อมูลหลักฐานทางวิชาการใหม่ที่มีการวิจัยเพิ่มขึ้น ยังคงยึดโยงกับข้อมูลเดิมเมื่อเริ่มมีการระบาดของโรคโควิด-๑๙ ใหม่ๆ ทั้งที่ปัจจุบัน การระบาดยุติลงแล้ว เชื้อมีการกลายพันธุ์จนลดความรุนแรงลงมากแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ติดเชื้อมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติแล้ว การอ้างเหตุผลความจำเป็นที่จะไม่พิจารณาความปลอดภัยของวัคซีน โดยไม่พิจารณาผลกระทบในระยะยาวจึงเป็นคำอ้างที่ฟังไม่ขึ้น การที่ท่านอ้างว่า มีการดูข้อมูลคุณภาพและความปลอดภัยนั้น ท่านใช้ข้อมูลเมื่อสามปีก่อนใช่หรือไม่ เมื่อมีข้อมูลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยออกมาใหม่ ท่านได้มีการทบทวน นำข้อมูลใหม่เหล่านั้นมาพิจารณาเพิ่มเติมหรือไม่ หรือเป็นการพิจารณาที่ดูเพียงครั้งเดียวแล้วให้ไฟเขียวถาวรกับบริษัทยาแบบไม่มีเงื่อนไข อันเป็นการกระทำที่ชวนสงสัยว่าเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยา ทั้งที่ปัจจุบันนี้มีข้อมูลที่เผยแพร่ในสาธารณะว่า บริษัทยาดังกล่าว จงใจปกปิด บิดเบือนผลการวิจัยที่นำมาใช้ขอขึ้นทะเบียน ทั้งยังพบว่ามีการปนเปื้อนของสารพันธุกรรมที่มิใช่ mRNA ของสไปก์โปรตีน ตามที่ระบุ แต่พบสารพันธุกรรมของยีนก่อมะเร็ง และยีนดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนในวัคซีนดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ในเอกสารกำกับยาที่ผ่านความเห็นชอบของ อ.ย. ยังระบุไว้อย่างชัดเจนว่า บริษัทไม่ได้ทำการศึกษาว่าวัคซีนดังกล่าวก่อให้เกิดมะเร็งได้ไหม หรือทำให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมได้ไหม ทางกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้นำเสนอข้อมูลและผลการวิจัยต่างๆในการประชุม คณะกรรมาธิการการสาธารณสุขเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ โดยมีผู้แทนหน่วยงานของท่านร่วมรับฟังข้อมูลด้วย การที่ท่านจะปฏิเสธไม่รับรู้ข้อมูลหลักฐานใหม่เหล่านี้ จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาวกับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน mRNA จึงอาจเป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่อจนก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่นได้
ทางกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ไม่ต้องการเห็นท่านต้องมารับผิดชอบในการกระทำดังกล่าวจึงจะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับข้อสงสัยในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน mRNA ไปมอบให้กับท่านเพื่อขอให้ท่านทำการทบทวนการอนุญาตวัคซีนดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้มีผู้ป่วยและญาติใกล้ชิดของผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนเริ่มตั้งข้อสงสัยในกระบวนการอนุญาตและความโปร่งใสของกระบวนการดังกล่าว อันอาจจะนำมาซึ่งการฟ้องร้องเอาผิดกับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อไป
ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรปิดบังได้
การวิ่งหนีความจริงเสมือนการวิ่งหนีเงาตนเอง ที่ไม่มีทางหนีพ้น
“เงาดังกล่าวจะหายไปก็ต่อเมื่อมีความโปร่งใสให้สังคมตรวจสอบได้”
กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์