“น้ำมันปลา” กับสรรพคุณดีๆ และข้อควรระวัง
“น้ำมันปลา” นั้นมีประโยชน์เพราะมักถูกเลือกเป็นอาหารบำรุงสมอง ทำให้ความจำดี แต่รู้หรือไม่ว่ามันมีประโยชน์มากกว่านั้นอีกมาก
ประโยชน์ของน้ำมันปลา
– ดีต่อระบบหัวใจและสมอง ช่วยให้หลอดเลือดขยายดี ลดการเกาตัวของเกร็ดเลือด
– ช่วยความดันโลหิตของร่างกาย
– ลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด
– ลดปัญหาอาการข้อเสื่อม ข้อรูมาตอยด์
– ช่วยเสริมการทำงานของเซลล์สมอง เพิ่มความจำ ป้องกันสมองเสื่อม
– ป้องกันภาวะซึมเศร้า
– ลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน
– ลดอาการปวดไมเกรน
– ลดอาการคัน บรรเทาการเกิดโรคผิวหนังบางชนิด เช่น สะเก็ดเงิน เรื้อน
– ช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก
– ช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวกลับมาผ่องใส
– บำรุงเส้นผม ทำให้รูขุมขนของเส้นผมแข็งแรง ช่วยให้เส้นผมที่งอกใหม่มีความหนา
แม้ว่าน้ำมันปลาจะมีประโยชน์และมีความปลอดภัยสูง เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี แต่ก็ยังมีข้อควรระวังเล็กน้อยที่ควรใส่ใจ และศึกษาให้รู้เอาไว้ก่อนวิ่งไปซื้อมาทาน
– ผู้ที่ทานน้ำมันปลาเป็นประจำ จะมีความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกมากขึ้นและเลือดหยุดไหลช้าลงได้ ดังนั้นผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ที่ดื่มสุรามากๆ หรือผู้ที่รับประทานยาจำพวกแอสไพริน หรือวอร์ฟาริน อาจจะต้องทานน้ำมันปลาอย่างระมัดระวัง หากจะเข้ารับการผ่าตัดควรแจ้งแพทย์ก่อนว่ากำลังทานน้ำมันปลาอยู่ และควรหยุดทานน้ำมันปลาก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 14 วัน
– ผู้ที่แพ้อาหารทะเล หรือแพ้ปลาก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะแพ้น้ำมันปลาจจนทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือท้องเสียได้เช่นกัน แต่หากไม่ได้มีอาการแพ้น้ำมันปลาแต่อย่างใด แต่ยังมีอาการดังกล่าว อาจแก้ไขได้ด้วยการรับประทานน้ำมันปลาหลังอาหารทันที หรือเริ่มจากการทานน้ำมันปลาในปริมาณน้อยๆ ก่อน
– ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำอยู่แล้ว อาจจะต้องระมัดระวังในการทานน้ำมันปลา เพราะน้ำมันปลามีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิตอยู่แล้ว
– หากทานน้ำมันปลามากเกินขนาดที่กำหนด อาจเป็นการเพิ่มปริมาณแคลอรี่ที่เราควรได้รับต่อวัน จนอาจส่งเสียต่อร่างกายในทางกลับกัน กล่าวคือ เสี่ยงต่อปริมาณไขมันไม่ดี และคอเลสเตอรอลเพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้วิตามินอีในร่างกายลดลงด้วย
– นอกจากอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียแล้ว ยังอาจมีอาการข้างเคียงอื่นๆ มีอาจเกิดขึ้นได้ เช่น แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย หรือเรอบ่อยกว่าปกติ เป็นต้น