รักษา “ตาปลา” ด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยของใกล้ตัว
“ตาปลา” เป็นปัญหาที่หลายคนไม่อยากเจอเพราะจะรู้สึกเหมือนมีก้อนกรวดติดอยู่กับเท้าตลอดเวลา ทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อเดินทั้งเวลาสวมรองเท้า หรือแม้เดินด้วยเท้าเปล่าอาจทำให้รบกวนการใช้ชีวิตได้ วันนี้เราเลยมาพูดถึงสาเหตุและวิธีการรักษาแบบง่ายๆ ขั้นพื้นฐานด้วยตนเองมาฝาก
– ตาปลาชนิดตุ่มเล็กและมีแกนตรงกลาง (hard corn)
เกิดจากการกด โดยเฉพาะบริเวณปุ่มกระดูก จึงมักพบบริเวณฝ่าเท้า พบได้ในทุกช่วงวัย
– ตาปลาแบบผิวด้าน (callus)
เกิดจากการเสียดสี มักพบในนักกีฬาและผู้สูงอายุที่เท้าเริ่มมีการผิดรูป ทำให้เกิดการเสียดสีบางจุดมากกว่าปกติ จึงเกิดได้หลายตำแหน่งของเท้า
การรักษาตาปลา
– ทายาเพื่อช่วยลอกผิวหนังกำพร้า
– เลือกสวมใส่รองเท้าที่พอดีกับเท้า ไม่คับ หลวม หรือ แข็ง จนเกินไป
– น้ำส้มสายชูกลั่น นำน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำ 3 ส่วน ผสมให้เข้ากันและนำสำลีชุบน้ำส้มสายชูทาลงบริเวณตาปลา และปิดด้วยผ้าพันแผลทิ้งไว้ 1 คืน และขัดออกเบาๆ หลักจากนั้นบำรุงเท้าด้วยน้ำมันมะกอก ทำซ้ำไปเรื่อยๆ วิธีนี้จะช่วยทำให้ตาปลาหลุดออก แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะนึง
– กระเทียม ฝานกระเทียมเป็นชิ้นหนาๆ นำมาถูบริเวณที่เป็นตาปลา นำกระเทียมอีกส่วนมาสับ
และพอกลงบนตาปลาพันด้วยผ้าพันแผล ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนจึงแกะออก ทำติดต่อกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์
– มะละกอดิบ นำมะละกอดิบมาคั้นเอาแต่น้ำ นำสำลีชุบน้ำมะละกอและทาบริเวณตาปลา และล้างออกด้วยน้ำอุ่นทำซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่าตาปลาจะหลุดออก
– มะนาว ของใกล้ตัวที่หาได้ง่ายๆ ใช้สำลีชุบน้ำมะนาวเช็ดบริเวณตาปลาจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง ทำซ้ำทุกวันไปเรื่อยๆ จะเห็นผลได้เร็วยิงขึ้น
– เบกกิ้งโซดา นำเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำเปล่านำไปแช่เท้าประมาณ 10-15 นาที และขัดเบาๆ ที่บริเวณตาปลาด้วยแปรงนุ่มๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด
หากลงทำทุกอย่างแล้วไม่หายจริงๆ ก็สามารถพบแพทย์เฉพาะทางได้ โดยจะใช้วิธีการผ่าผิวหนังที่หนาออกซึ่งเป็นหัตถการที่ควรทำโดยแพทย์