กรมควบคุมโรคเผย “โควิด 19 – ไข้หวัดใหญ่” ลดลง แต่ยังต้องระวัง! วัคซีนโควิดไม่ฟรี ส่วนหวัดใหญ่เฉพาะกลุ่มเสี่ยง
กรมควบคุมโรคเผย “โควิด 19 – ไข้หวัดใหญ่” โรคระบบทางเดินหายใจช่วงหน้าฝน ยังต้องระวัง! แม้แนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่เริ่มลด แต่ยังพบมากในเด็กและผู้สูงอายุ ย้ำ! วัคซีนโควิดไม่ฟรี! ต้องจ่ายเอง เว้นกลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นขึ้นกับดุลยพินิจแพทย์ ส่วนวัคซีนหวัดใหญ่กลุ่มเสี่ยงรับฟรี! ถึงเดือนส.ค.นี้ หากไม่ได้แจ้ง สสจ.ทุกแห่ง หรือสายด่วนกรมฯ 1422
โควิด-ไข้หวัดใหญ่ลดลง! แต่ยังต้องป้องกันตัวเอง
เมื่อเร็วนี้ นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงโรคระบบทางเดินหายใจที่พบมากในช่วงฤดูฝน อย่างโรคโควิด19 และโรคไข้หวัดใหญ่ ว่า สถานการณ์สถานการณ์โรคโควิด19 ภาพรวมคนไข้ที่รักษาในโรงพยาบาลเริ่มป่วยน้อยลง เห็นได้จากสัปดาห์ที่ผ่านมาคนไข้รายใหม่ที่รักษาใน รพ.จำนวน 519 ราย มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2567 จำนวน 36,660 ราย โดยสายพันธุ์ที่พบระบาดมากที่สุดคือ สายพันธุ์ JN.1, KP.2 และ KP.3 ทั้งนี้ ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้น เพียงแต่สายพันธุ์ KP.2 และ KP.3 จะแพร่เชื้อได้รวดเร็วและง่ายขึ้นกว่าสายพันธุ์ JN.1 สำหรับกลุ่มที่มีการระบาดมากพบได้ในกลุ่มเด็กเล็ก อายุ 0-4 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี
นพ.วีรวัฒน์ กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ป่วยรายใหม่มี 519 ราย ลดลงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา 41 ราย ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบ 371 ราย ลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 76 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนักขึ้นที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจพบ 153 ราย ลดลงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา 31 ราย ซึ่งกลุ่มเสี่ยงป่วยหนักและใส่ท่อช่วยหายใจยังเช่นเดิม คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และรับวัคซีนเข็มกระตุ้นนานแล้ว ขณะผู้เสียชีวิตสัปดาห์ที่ผ่านมาพบ 4 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 3 ราย
“สำหรับช่วงฤดูฝนที่กังวลว่าจะมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ อย่างโควิด19 เป็นอย่างไรนั้น ภาพรวมพบผู้ป่วยลดลง ผู้ป่วยปอดอักเสบ และใส่ท่อช่วยหายใจลดลง แต่จะพบมากในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ทั้งนี้ กลุ่มเด็กเล็กพบป่วยมากแต่อัตราการเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุ ยังมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง โดยพบว่าเป็นกลุ่มมีโรคประจำตัว มีโรคร่วมและไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดมาเป็นเวลานานแล้ว” นพ.วีรวัฒน์ กล่าว
วัคซีนโควิดไม่ฟรี! ต้องจ่ายเอง
เมื่อถามว่ากรณีไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ยังต้องฉีดวัคซีนโควิด19 ป้องกันหรือไม่ เพราะปัจจุบันต้องจ่ายเอง ไม่ได้ฟรี นพ.วีรวัฒน์ กล่าวว่า คำแนะนำปัจจุบันเน้นกลุ่มเสี่ยง เช่น อายุมาก มีโรคประจำตัว อย่างโรคหัวใจ ปอดอักเสบเรื้อรัง เส้นเลือดสมองตีบ เป็นต้น ส่วนประชาชนทั่วไปเป็นอันดับรองลงมา พิจารณาเป็นรายๆไป เช่น หากอยู่ในกลุ่มบุคคลในบ้านที่เป็นกลุ่มเสี่ยง อาจไปรับบริการวัคซีนโควิดได้ เพื่อลดโอกาสแพร่กระจายเชื้อ
ถามว่าแต่วัคซีนโควิดไม่ได้ฟรี ต้องจ่ายเงินเอง นพ.วีรวัฒน์ กล่าวว่า วัคซีนที่จะเข้าไปอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์อยู่ในช่วงการพิจารณาของคณะกรรมการฯ แต่ปัจจุบันต้องชำระเงินเอง
เมื่อถามว่าผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเสี่ยงที่เคยรับวัคซีนมาแล้วควรฉีดห่างกันอย่างไร นพ.วีรวัฒน์ กล่าวว่า โดยทั่วไปปีละ 1 ครั้ง ยกเว้นกลุ่มที่มีความต้านทานต่ำมาก เช่น กลุ่มปลูกถ่ายไขกระดูก กลุ่มมะเร็งโลหิต หรือขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์อาจเป็นทุก 6 เดือน อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยสอบถามมายังกรมควบคุมโรค สายด่วน 1422
ช่องทางแจ้งปัญหากลุ่มเสี่ยง ไม่ได้วัคซีนหวัดใหญ่
นพ.วีรวัฒน์ ยังกล่าวถึงโรคไข้หวัดใหญ่ ว่า เป็นอีกกลุ่มโรคที่ยังพบ แต่เมื่อเปรียบเทียบช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาพบป่วยน้อยลง ซึ่งสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด เป็นสายพันธุ์ A (H1N1) และสายพันธุ์ B รองลงมา โดยข้อมูลวันที่ 1 มกราคม – 26 กรกฎาคม 2567 พบผู้ป่วยสะสม 316,123 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กและกลุ่มวัยเรียน พบผู้เสียชีวิต 27 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป และไม่ทราบประวัติการได้รับวัคซีน เน้นย้ำกลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรงรีบเข้ารับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน
“ทั้งโควิด19-และไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ป้องกันได้ เช่น การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล การไอจามขอให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันแพร่กระจาย ดูแลสุขภาพตนเอง ทั้งนี้มีวัคซีนป้องกัน โดยไข้หวัดใหญ่ มีวัคซีนป้องกันในกลุ่ม 7 โรคหลัก คือ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการทางสมอง ผู้มีโรคเรื้อรัง ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย และโรคอ้วน โดยสามารถรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ หากใครยังไม่ได้รับและเป็นกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวให้ติดต่อรพ.ใกล้บ้าน หากไม่มีติดต่อไปยัง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือกรมควบคุมโรคสายด่วน 1422” นพ.วีรวัฒน์ กล่าว