เลขาฯสปสช.รับเข้าใจสถานการณ์รพ.แต่ละแห่ง ประเด็นเงินขาดสภาพคล่อง ขณะนี้เตรียมงบ 1.5 พันล้านกระจายเฉลี่ย รพ.แต่ละแห่งช่วยบรรเทา ส่วนจะจัดสรรเท่าเดิม ไม่ลดงบผู้ป่วยใน อยู่ระหว่างดำเนินการ ขณะที่ รมว.สาธารณสุข ของบกลางอีก 7.1 พันล้านรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งไม่ใช่แค่ลงกลุ่มนวัตกรรม ร้านยา คลินิกเท่านั้น แต่จะใช้ภาพรวมทั้งหมด

ตามที่รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เริ่มออกมาพูดถึงสภาพปัญหาทางการเงิน หลังประสบปัญหากรณีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ปรับลดงบบัตรทองกองทุนผู้ป่วยใน ลดลงจากการคิดอัตราจ่ายตามค่า DRGs หรือ Diagnostic Related Groups เป็นระบบการวินิจฉัยโรคร่วม โดยมีอัตราจ่ายเดิมอยู่ที่ 8,350 บาทต่อหนึ่งหน่วยน้ำหนักสัมพัทธ์ หรือ adjRW ซึ่งเป็นการคำนวณการจ่ายเงินตามกลุ่มโรค โดยปรากฎว่าสปสช.จ่ายลดลงเหลือ 7 พันบาท ขณะที่ รพ.สระบุรี ได้รับเพียง 5 พันบาทต่อ adjRW เท่านั้น แต่ล่าสุด สปสช.เตรียมจ่ายเงินผู้ป่วยในราว 1.5 พันล้านให้รพ.ในเดือนสิงหาคมนี้

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การจ่ายเงินกองทุนผู้ป่วยใน เป็นการจ่ายตามการปรับเปลี่ยนค่า DRGs หรือ Diagnostic Related Groups เป็นระบบการวินิจฉัยโรคร่วม ที่เปลี่ยนจากเวอร์ชั่น 5 เป็นเวอร์ชั่น 6 ซึ่งจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักการที่ต้องรอการคำนวณทางบัญชี จะสามารถจ่ายเงินให้รพ.ต่างๆ ได้ภายในวันที่ 30 กันยายน แต่จากการพิจารณา ไม่ควรรออีกต่อไป โดยจะจ่ายเงินก้อนนี้ก่อน เคลียร์ท่อให้หมด ไม่ให้ค้างท่อ เพราะรพ.อาจเดือดร้อนเรื่องสภาพคล่อง ดังนั้น จะนำเงินจำนวน 1,514 ล้านบาทจัดสรรลงไปก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสรรเงินตามกองทุนผู้ป่วยใน 1,514 ล้านบาท เป็นการคิดตามอัตรา 8,350 บาท ตามเดิมหรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นการคิดตามอัตราประมาณ 7 พันบาทต่อค่า adjRW ซึ่งคิดตามนี้และจ่ายก่อน 30 กันยายน เพื่อให้เงินไม่ค้างท่อ ไม่มีการกันเงินไว้ก่อน ส่วนใครทำบัญชีไม่ทัน ไม่ต้องกังวล เงินไม่ได้หายไปไหน ต้องจ่ายตามแน่นอน

เมื่อถามว่า จำนวน 1,514 ล้านบาท เมื่อกระจายให้รพ.ต่างๆ น้อยไปหรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า จะน้อยจะมากก็ทุ่มลงไปก่อน ซึ่งจริงๆ เฉลี่ยแต่ละรพ. จะได้รับก็ได้เป็นหลักล้านบาท อย่างไรก็ตาม ส่วนอัตราการจ่ายจะกลับมาเท่าเดิม 8,350 บาทต่อ adjRW หรือไม่นั้น เราเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด ตอนนี้พยายามดำเนินการช่วยกันแก้ปัญหา ล่าสุดนายสมศักดิ์ เทพสุทินรมว.สาธารณสุข ของบกลาง 7.1 พันล้านบาท ก็จะมาช่วยได้เช่นกัน

เมื่อถามว่า 7.1 พันล้านไม่ใช่แค่ 30 บาทรักษาทุกที่หรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า เป็นเงินกองทุนฯ เราก็นำมาเพื่อบริหารจัดการ สปสช. ยืนยันดูภาพรวม ไม่ได้ว่าจะไปจ่ายเฉพาะนวัตกรรม อย่างร้านยา คลินิกต่างๆ ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม เมื่องบฯมาก็ต้องขอมติ บอร์ดสปสช.อยู่ดี