เหยื่อยาดองผสมเมทานอล เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยังวิกฤติที่ รพ.เลิดสิน 1 ราย
เหยื่อยาดองผสมเมทานอล ป่วยสะสม 44 ราย เสียชีวิตรวม 10 ราย มี 2 รายยังรักษาตัวใน รพ. โดย 1 รายอาการยังวิกฤติ ที่รพ.เลิดสิน ส่วนอีกเคสอาการดีขึ้น ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว กรมการแพทย์เตรียมถอดบทเรียน 25 ก.ย.นี้
ตามที่เกิดเหตุการณ์คลัสเตอร์ยาดองผสมเมทานอล จนทำให้ร่างกายผู้ดื่มเกิดภาวะเลือดเป็นกรด บางรายตาพร่ามัว มองไม่เห็น และเสียชีวิต โดยรพ.นพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ ตั้งศูนย์รับเรื่องและดูแลผู้ป่วยร่วมกับรพ.ใกล้เคียงมาตลอด ตัวเลขล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 ที่มีการปิดศูนย์ประสานงาน รพ.นพรัตนฯ มีผู้เสียชีวิต 8 รายนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 10 กันยายน รพ.นพรัตนราชธานี สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ข้อมูลล่าสุดสถานการณ์ผู้ดื่มยาดองผสมเมทานอล พบป่วยทั้งหมดรวมผู้เสียชีวิต 44 ราย เสียชีวิต 10 ราย เพิ่มขึ้นมา 2 ราย จากเดิม 8 รายเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 โดยจำนวนที่เพิ่มขึ้นมา 2 ราย ประกอบด้วย
รายที่ 9 เสียชีวิตวันที่ 6 กันยายน เป็นเคสที่รพ.เชียงคำ จ.พะเยา
รายที่ 10 เสียชีวิตวันที่ 10 กันยายน เคสที่รพ.ราชวิถี
ทั้ง 2 รายอาการหนักตั้งแต่แรกรับพบป่วย ขณะนี้ เหลือผู้ป่วยในระบบ 2 ราย โดยรายแรกที่รพ.นพรัตนฯ ถอดเครื่องช่วยหายใจ อาการดีขึ้นแล้ว และรายที่2 เคสที่ รพ.เลิดสิน อาการหนักตั้งแต่แรกรับ ปัจจุบันอาการยังค่อนข้างวิกฤต
วันเดียวกัน นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ว่า ได้รับรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย โดย รายที่ 9 เป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่ รพ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยเป็นผู้ป่วยชายที่มาเยี่ยมลูกที่กรุงเทพฯ และนำยาดองกลับไปที่ จ.พะเยา โดยเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดว่าจะมีการตั้งวงดื่มกับเพื่อนที่จ.พะเยาด้วย แต่เมื่อส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนแล้วพบว่า ผู้ป่วยน่าจะดื่มยาดองจากที่กรุงเทพฯ แต่เราก็ไม่ได้วางใจได้นำผู้ร่วมวงดื่มทุกคนไปตรวจรักษาแล้วไม่พบส่ิงผิดปกติใดๆ
สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 10 นั้น เป็นผู้ป่วยที่รักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี ญาติขอนำตัวกลับไปดูแลที่บ้านและเสียชีวิตที่บ้านเมื่อวันที่ 10 ก.ย. สำหรับยอดผู้ป่วยจากกรณีดังกล่าวมีทั้งหมด 44 ราย เสียชีวิต 10 ราย รักษาหายแล้ว 32 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 2 ราย โดยเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีแดง 1 ราย กลุ่มสีเหลือง 1 ราย
นพ.ไพโรจน์ กล่าวด้วยว่า จากการติดตามสถานการณ์ผู้ป่วยมากว่า 3 สัปดาห์ ขณะนี้เรียกได้ว่าเหตุการณ์จบลงแล้ว ไม่มีการขยายวงต่ออีก ทั้งนี้กรมการแพทย์จะมีการประชุมวิชาการเพื่อถอดบทเรียนเรื่องนี้ ทั้งสาเหตุและแนวทางการรักษา ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ โดยจะประชุมวันที่ 25 ก.ย.นี้ ที่ รพ.นพรัตนราชธานี