อัปเดตผลรักษาเด็กนักเรียน 3 ราย จากเหตุรถบัสไฟไหม้รถบัส ภาพรวมบาดแผลดีขึ้นไม่พบการติดเชื้อ
รพ.เด็กเผยอาการเด็ก 14 ปี บาดแผลไฟไหม้ดีขึ้นมาก ไม่พบการติดเชื้อ ไม่พบปัญหาข้อติดยึด สามารเหยียดข้อไหล่ ข้อศอกและข้อนิ้วมือ เพื่อป้องกันข้อติดได้ดี ขณะที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เผยอาการเด็ก 2 ราย ไฟไหม้ใบหน้าและลำตัวแผลไหม้ระดับที่สอง ให้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราว สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้
จากกรณีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่1 ตุลาคม 2567 ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนต้องเข้ารับการรักษาจำนวน 3 ราย ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ จำนวน 1 ราย อายุ 14 ปี และอีก 2 ราย รักษาที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นเด็กหญิงอายุ 7 ปี และอายุ 9 ปี นั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 67 สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี(รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ ออกแถลงการณ์(ฉบับที่ 20) เรื่อง ผู้ป่วยเด็กหญิง 14 ปี เกิดเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทัศนศึกษา จากการตรวจรักษาของวันที่ 22 ตุลาคม 2567 พบว่าอาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้ดีขึ้นมาก ไม่พบการติดเชื้อ ไม่พบปัญหาข้อติดยึด สามารเหยียดข้อไหล่ ข้อศอก และข้อนิ้วมือ เพื่อป้องกันข้อติดได้ดี ด้านจิตใจผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่มีวิธีการจัดการอารมณ์ที่ดี ผลการรักษาเป็นที่พึงพอใจ ของทีมแพทย์ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับบ้าน
ต่อไป
ขอขอบพระคุณทุกท่านในความห่วงใยสุขภาพอาการของเด็ก ทางทีมแพทย์และพยาบาลของสถาบัน สุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ จะให้การดูแลรักษาเด็กอย่างเต็มที่
สำหรับอีก 2 ราย รักษาที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นเด็กหญิงอายุ 7 ปี และอายุ 9 ปี นั้น พบว่า เคสเด็กหญิง อายุ 7 ปี อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 13%) ยังมีไข้ต่ำ ๆ มีความดันโลหิตสูงเล็กน้อยพอเดิม ไม่มีอาการผิดปกติ สามารถหายใจได้เองโดยไม่ต้องใช้ออกซิเจน สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ หยุดยานอนหลับ ให้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวเวลามีอาการเจ็บหรือก่อนทำแผล รับประทานอาหารทางปากได้มากขึ้น สามารถกินนมได้ ปัสสาวะและอุจจาระปกติ
ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน ไม่พบตำแหน่งติดเชื้อชัดเจน เฝ้าติดตามอาการ และเฝ้าระวังการติดเชื้อแทรกซ้อน นอกจากนี้ทีมศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลเพื่อเปลี่ยนวัสดุปิดแผลในห้องผ่าตัดพร้อมทีมจักษุแพทย์วันนี้ ขณะนี้เยื่อรกร่นเริ่มละลาย และเข้าห้องผ่าตัดเพื่อตรวจและประเมินเยื่อตาและกระจกตา
ส่วนเคสเด็กหญิง อายุ 9 ปี พบว่า อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า ไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 30%) สัญญานชีพปกติ ผู้ป่วยมีไข้ต่ำ ๆ พอเดิม ให้ยาลดความดันโลหิต ยังมีความดันสูงเป็นครั้งคราวสัมพันธ์กับอาการปวด หายใจได้เองโดยไม่ต้องให้ออกซิเจน ไม่หอบเหนื่อย สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ ให้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวเวลามีอาการเจ็บหรือก่อนทำแผล รับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี เริ่มกินอาหารทางปากได้เพิ่มมากขึ้น ปัสสาวะและอุจจาระปกติ
ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน สงสัยติดเชื้อบริเวณเปลือกตา (blephalitis) แพทย์จักษุ ระบุว่า เข้าไปประเมินเพิ่มเติมใน OR วันนี้ จึงได้เริ่มให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดอีกครั้ง และเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง ซึ่งวันนี้เข้าห้องผ่าตัดช่วงบ่ายเพื่อลอกผิวหนังตัดเนื้อตาย อาการคงเดิม ส่วนทีมจักษุแพทย์ ระบุว่า ลอกตาตามสั่ง เซลล์ต้นกำเนิด เยื่อรก และคอนแทคเลนส์ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แผนการรักษา ร่วมประเมินแผลที่ตาในห้องผ่าตัดพร้อมทีมศัลยกรรม