“สมศักดิ์” นั่งหัวโต๊ะแถลงสถิติอุบัติเหตุปีใหม่ 5 วัน บาดเจ็บ 1,354 คน ผู้เสียชีวิต 215 คน
“สมศักดิ์” นั่งหัวโต๊ะแถลงสถิติอุบัติเหตุปีใหม่ 5 วัน บาดเจ็บ 1,354 คน ผู้เสียชีวิต รวม 215 ราย กำชับเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมรับมือประชาชนเดินทางกลับ คุมเข้มความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุด
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 68 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ร่วมด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการรณรงค์ป้องกันและละลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2567 – 5 ม.ค.2568 ภายใต้ชื่อ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยังยืนนั้นจากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นในวันที่ 31 ธ.ค.พบว่า เกิดอุบัติเหตุ 262 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 245 คน ผู้เสียชีวิต 36 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 42.75 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 24.43 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 21.37 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 89.93 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 76.72 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.84 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.92
ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 00.01 – 01.00 น. เวลา 17.01 – 18.00 น. และเวลา 18.01 – 19.00 น. ร้อยละ 8.02 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี ร้อยละ 18.51 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,781 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 50,639 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (จังหวัดละ 11 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (5 ราย)
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (27 – 31 ธันวาคม 2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,398 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,354 คน ผู้เสียชีวิต รวม 215 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 11 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (44 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต (43 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และนนทบุรี (จังหวัดละ 10 ราย)
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนได้มอบข้อสั่งการในที่ประชุม โดยให้จังหวัดเตรียมความพร้อมของด่านหลัก ด่านรอง จุดตรวจ จุดสกัด เพื่อบริหารจัดการ การจราจรทั้งสายหลัก และสายรอง ให้เกิดความเรียบร้อย เหมาะสมเพื่อมิให้เกิด ปัญหาจราจร ติดขัดคับคัง และดูแลความปลอดภัย ของประชาชน อำนวยความสะดวก ตรวจสอบประชาชนและนักท่องเที่ยว ในสถานีขนส่งต่าง ๆ เพื่อให้สามารถ เดินทางกลับสู่จุดหมาย ได้อย่างปลอดภัย ให้จังหวัด ดำเนินการตรวจตรา และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง อย่างเข้มข้น จริงจัง และต่อเนื่องทั้งการขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัยและการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัด ที่ยังมีการจัดงาน ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ นอกจากนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความพร้อมของพนักงาน ขับรถโดยสารสาธารณะ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ของผู้โดยสารอย่างสูงสุด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ กระทรวงสาธารณสุข ได้นำข้อมูลจุดเกิดเหตุที่ผ่านมา กำหนดลงบนแผนที่ดิจิทัล เพื่อวางตำแหน่งรถกู้ชีพ กู้ภัย เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้ทันเวลา รวมทั้งจัดเตรียมทรัพยากรให้เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมบริการการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อรองรับผู้ประสบเหตุ ช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนการดำเนินงานและลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยประสานขอความร่วมมือหน่วยปฏิบัติการแพทย์ทางบก น้ำ อากาศ กับหน่วยปฏิบัติการอำนวยการในทุกเขตสุขภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกปฏิบัติการฉุกเฉิน ส่วนศูนย์นเรนทร ได้เตรียมความพร้อมกำลังคนเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการอำนวยการ และศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่”
นอกจากนี้ความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคม เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนน ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนคลินิกตรวจประเมินสมรรถนะทางสุขภาพเพื่อการขับขี่ โดยเน้นในกลุ่มผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นอันดับแรก โดยจะเปิดดำเนินการ 24 โรงพยาบาลในเดือนมกราคม 2568 นี้