วิธีช่วยบรรเทา “โรคเกาต์” ได้ เพียงทำตามนี้
“โรคเกาต์” เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง มีผลมาจากการที่มีระดับกรดยูริกในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการตกผลึกของเกลือยูเรตบริเวณข้อและเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย โดยผลึกดังกล่าวมีผลกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิดกระบวนการอักเสบตามมา
สามารถปรากฏได้หลายรูปแบบ คือ ข้ออักเสบ มักจะมีอาการแบบเฉียบพลัน เริ่มแรกมักเป็นข้อเดียว โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดที่โคนข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า หรือข้อเข่า โดยมีอาการปวด บวมแดง ร้อน เจ็บเมื่อกด และอาจมีไข้ร่วมด้วย บางรายพบก้อนโทฟัส ซึ่งเกิดจากการสะสมของผลึกเกลือยูเรตในเนื้อเยื่ออ่อน ข้อต่อ กระดูก และกระดูกอ่อน
วิธีรักษาโรคเกาต์โดยไม่ต้องใช้ยา
– ขณะมีอาการข้ออักเสบกำเริบควรเลือกรับประทานโปรตีนจาก ไข่ เต้าหู้ นมและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันต่ำ
– ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมถึงอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่ปลา ยอดผักต่างๆ
– ลดการรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัด น้ำผลไม้และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตส เช่น ชาเขียวพร้อมดื่ม
– งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
– ควรดื่มน้ำ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
– หากท่านรับประทานอาหารชนิดใดแล้วมีอาการข้ออักเสบให้หลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้นๆ เพื่อป้องกันข้ออักเสบ
วิธีการบรรเทาอาการด้วยตัวเองที่บ้าน
– ให้ยกส่วนที่มีอาการบวมให้สูงขึ้น วิธีนี้จะเป็นการช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดี หากอาการเกิดขึ้นที่บริเวณข้อเท้า ให้คนไข้เอนตัวลงนอนบนเตียง และให้ใช้หมอนหนุนเพื่อเป็นการพยุงเท้าขึ้นมา และถ้าหากเกิดการอักเสบมาก อาจจะส่งผลทำให้คนไข้เจ็บปวดมากจนไม่สามารถที่จะวางผ้าไว้บนเท้าได้
– ให้บรรเทาอาการเจ็บปวดที่บริเวณข้อต่อด้วยการประคบเย็น วิธีนี้จะเป็นการช่วยลดอาการอักเสบและอาการเจ็บปวดได้ โดยการนำน้ำแข็งมาประคบไว้ 20 นาที แล้วปล่อยเอาไว้สักพักจะทำให้ผิวหนังอุ่นขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวหนังถูกความเย็นทำลาย
– สามารถทานยาต้านการอักเสบที่ไม่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปยาต้านการอักเสบ จะช่วยทำให้ลดการอักเสบและความเจ็บปวดได้ดี ยาต้านอักเสบที่แพทย์แนะนำให้ทาน ได้แก่ ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) (เช่น Advil, Motrin IB) และนาพรอกเซนโซเดียม (naproxen sodium) (เช่น Aleve) โดยจะต้องทานยาทันทีถ้าหากเกิดอาการกำเริบขึ้น และสามารถทานยาซ้ำได้อีกครั้งหลังจากที่ผ่านไป 2 วัน ยาต้านอักเสบเหล่านี้แพทย์ไม่แนะนำให้ใช้กับคนที่มีแผลหรือว่ามีเลือดออกในกระเพาะอาหาร, มีปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือว่ามีความดันโลหิตสูง ไม่ควรที่จะทานยาแอสไพริน เพราะว่าจะทำให้ระดับของกรดยูริกเพิ่มมากขึ้น