หมอธีระ” เผย WHO สรุปผลฉีดวัคซีนบอกควรฉีดเข็มกระตุ้น 6-12 เดือนหลังรับเข็มสุดท้าย เตือนคนไทยโควิด19ยังไม่จบจริง!
วันที่ 29 มี.ค. 66 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิด19 ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2566 ว่าเมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 61,977 คน ตายเพิ่ม 242 คน รวมแล้วติดไป 683,452,958 คน เสียชีวิตรวม 6,827,884 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ รัสเซีย ญี่ปุ่น และชิลี
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 91.03 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 87.6
…อัพเดตเรื่องแนวทางการฉีดวัคซีนจาก WHO
เมื่อคืนนี้ ทางองค์การอนามัยโลก ได้เผยแพร่สรุปรายงานการประชุมของ Strategic Advisory Group of Experts on Immunization (SAGE) ในช่วง 20-23 มีนาคมที่ผ่านมา
สาระสำคัญเกี่ยวกับคำแนะนำในการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันมีดังนี้
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้สูงอายุ, คนที่มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และโรคหัวใจ, คนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เอชไอวี ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ, เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป, สตรีที่ตั้งครรภ์, และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานด่านหน้า
คำแนะนำ: ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังจากที่ฉีดเข็มสุดท้ายไป 6-12 เดือน โดยระยะเวลาการฉีดเข็มกระตุ้นนั้นให้พิจารณาตามปัจจัยเสี่ยง เช่น อายุ ระบบภูมิคุ้มกัน
ทั้งนี้เด็กเล็กๆ อายุน้อยกว่า 6 เดือนลงมานั้น หากติดเชื้อจะมีโอกาสป่วยรุนแรงได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้สตรีที่ตั้งครรภ์ได้รับวัคซีน โดยระหว่างตั้งครรภ์นั้นหากเข็มสุดท้ายได้รับไปเกิน 6 เดือนก็ควรได้รับเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันทั้งแม่และลูก
ส่วนกลุ่มประชากรอื่นๆ ที่แข็งแรงดีนั้น ควรได้รับการฉีดวัคซีนสองเข็มแรกและได้รับเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 1 เข็ม
…บทเรียนโควิด-19 ในสายตาของ Anthony Fauci
จากปาฐกถาที่ Georgetown University ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา Dr.Anthony Fauci ได้เล่าถึงบทเรียนในมุมมองของเขา สาระสำคัญดังนี้
1.ไม่ควรประมาท แต่ควรเตรียมพร้อมเสมอที่จะรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด
2.ควรตัดสินใจดำเนินมาตรการทางด้านสาธารณสุขเพื่อควบคุมป้องกันโรคตั้งแต่เนิ่นๆ และทำอย่างรวดเร็วทันเวลา
3.ความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลก และการแชร์ข้อมูลแก่กัน เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
4.ควรประยุกต์ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมเพื่อให้สามารถดำเนินการศึกษาวิจัยได้อย่างรวดเร็ว
5.ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่เดิมนั้นช่วยให้สามารถคิดค้นวิธีการควบคุมป้องกันโรคได้อย่างรวดเร็วขึ้น
6.การรับมือโรคระบาดทั่วโลกนั้นสามารถทำได้ทั้งแนวทางการจัดการเชื้อโรคชนิดนั้น (Priority pathogen approach) และแนวทางการวางแผนจัดการเชื้อโรคแบบทั้งกลุ่ม (Prototype pathogen approach)
7.ควรให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างคนและสัตว์ เพราะจะเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรค
8.ความไม่เป็นธรรมทางด้านสังคมและสุขภาพที่มีมาอย่างยาวนานนั้นส่งผลต่อสถานการณ์โรคระบาดของทั่วโลก
9.การเผยแพร่ข้อมูลลวงโลกนั้นถือเป็นศัตรู เป็นอุปสรรคต่อการควบคุมป้องกันโรค
10.สำหรับโรคโควิด-19 นั้น มันยังไม่จบ จนกว่ามันจะจบจริง
…สำหรับไทยเรา ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ปรับสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ที่บ้าน ที่ทำงาน ที่เที่ยว ที่กินดื่ม ให้มีการระบายอากาศให้ดี การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
จดจำบทเรียนวิกฤติและความสูญเสียที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ ทำในสิ่งที่ควรทำ ใช้ความรู้ที่ถูกต้องเพื่อประกอบการตัดสินใจประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ไม่หลงต่อกิเลสและคำลวง
โควิด-19 ยังไม่จบ ติดเชื้อแต่ละครั้ง ป่วยได้ รุนแรงได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อ Long COVID ความใส่ใจสุขภาพเป็นหัวใจสำคัญที่จะประคับประคองให้เราปลอดภัยไปด้วยกัน ทั้งตัวเรา ครอบครัว และสังคม
อ้างอิง
1. SAGE updates COVID-19 vaccination guidance. WHO. 28 March 2023.
2. Fauci A. The Maloy Distinguished Lecture in Global Health. Geogetown University. 27 March 2023.