สธ. ส่งทีมบุคลากรทางการแพทย์ ดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิม ตลอดการร่วมพิธีฮัจย์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
กระทรวงสาธารณสุข จัดทีมแพทย์พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 3 ทีม รวม 42 คน ผลัดเปลี่ยนดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2566 ณ นครมักกะห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยทีมแพทย์ชุดแรก 15 คน ออกเดินทางแล้ววันนี้
วันที่ 20 พ.ค. 66 ที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นายแพทย์สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับมอบหมายจาก นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ที่จะเดินทางไปดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครมักกะห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียประจำปี 2566 (ฮศ.1444) โดยปีนี้มีชาวไทยมุสลิมเดินทางไปร่วมประกอบพิธีประมาณ 1.2 หมื่นคน เริ่มออกเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม – 23 มิถุนายน 2566 และจะทยอยเดินทางกลับประเทศไทยช่วงวันที่ 3 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 โดยช่วงก่อนเดินทางไปประกอบพิธี กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมให้กับผู้เดินทาง โดยมีการคัดกรองความเสี่ยง ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกัน 3 โรค ได้แก่ โควิด 19 ไข้หวัดใหญ่ และไข้กาฬหลังแอ่น พร้อมออกเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน และยังจัดอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขฮัจย์ (อสม.ฮัจย์) เพื่อประสานงานและดูแลสุขภาพเบื้องต้น รวมทั้งมีส่วนร่วมในการบริการภาคสนามกับทีมแพทย์ด้วย
นายแพทย์สุภโชคกล่าวต่อว่า ช่วงระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม – 2 สิงหาคม 2566 ที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมพำนักในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อประกอบพิธีฮัจย์ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย แพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวม 42 คน โดยมี นายแพทย์ซุลกิฟลี ยูโซะผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม้แก่น จังหวัดปัตตานี และรองผู้อำนวยการศูนย์บริหารการพัฒนาสุขภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย และแบ่งชุดการเดินทางเป็น 3 ชุด ซึ่งในวันนี้ทีมแพทย์ชุดแรก จำนวน 15 คน จะออกเดินทางปฏิบัติหน้าที่จนถึงวันที่ 8 กรกฎาคม 2566 ส่วนทีมที่ 2 จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ 2 มิถุนายน – 21 กรกฎาคม 2566 และทีมที่ 3 ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน – 3 สิงหาคม 2566 ทั้งนี้ หลังจากผู้แสวงบุญเดินทางกลับถึงประเทศไทย จะมีการติดตามเฝ้าระวังสุขภาพต่อเนื่องอีก 14 วันด้วย