สธ. สั่งตั้ง “กลุ่มงานดิจิทัลทางการแพทย์ฯ” ในรพศ.รพท.รับบัตรปชช.ใบเดียว
ปลัดสธ. เคลื่อนนโยบาย “ดิจิทัลสุขภาพ” สั่ง รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป รพ.ชุมชน สสจ. และสำนักงานเขตสุขภาพทั่วประเทศ ตั้ง ‘กลุ่มงานดิจิทัลทางการแพทย์และสุขภาพ’ แยกโครงสร้างชัดเจน รองรับขยายตัวของเทคโนโลยี – ดีเดย์ “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” ม.ค.67
วันที่ 5 ธ.ค. 66 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงการขับเคลื่อนนโยบาย“ดิจิทัลสุขภาพ” ของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายในการพัฒนาเข้าสู่การเป็นระบบสุขภาพดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ที่ผ่านมายังไม่มีโครงสร้างแยกออกมาอย่างชัดเจน ขณะที่แนวโน้มด้านเทคโนโลยีดิจิทัลทางการแพทย์กำลังขยายตัว ประกอบกับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ จึงจำเป็นต้องมีระบบดิจิทัลมารองรับการทำงานให้ครอบคลุมมากขึ้น
ตั้งกลุ่มงานดิจิทัล แยกโครงสร้างชัดเจน
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า จากการประชุมกระทรวงสาธารณสุขที่ผ่านมา เห็นควรให้จัดตั้งกลุ่มภารกิจ/กลุ่มงานดิจิทัลทางการแพทย์และสุขภาพของโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป(รพศ./รพท.) โรงพยาบาลชุมชน(รพช.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) และสำนักงานเขตสุขภาพขึ้น โดยมอบหมายให้กองบริหารทรัพยากรบุคคล และสำนักสุขภาพดิจิทัล ของสำนักงานปลัดกระทรวงฯ ดูแลเรื่องนี้
“จริงๆช่วงโควิด19 เราได้ใช้ระบบสุขภาพดิจิทัลมาตลอด ซึ่งสามารถดำเนินการได้ อย่างอดีตเราคิดว่า การใช้เทเลเมดิซีน จะเหมาะสมกับการให้บริการประชาชนพื้นที่ห่างไกล แต่จากโควิดทำให้ทราบว่า คนในเขตเมืองก็หันมาใช้เทคโนโลยีกันมาก เพราะมีความสะดวก เช่น การรับยาใกล้บ้าน ส่วนข้อมูลก็จะผ่านระบบดิจิทัลทั้งหมด ที่สำคัญการใช้เทคโนโลยีมาช่วย ยังทำให้บุคลากรสะดวกมากขึ้น หมออยู่ที่ไหนก็ได้สามารถติดต่อสื่อสารคนไข้ได้ตลอดได้ทุกที่” ปลัดสธ.กล่าว
มีคกก.ระดับรพ.บริหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดตั้งกลุ่มภารกิจ/กลุ่มงานดิจิทัลทางการแพทย์และสุขภาพของโรงพยาบาลนั้น โดยรพศ./รพท. และรพช. จะทำในรูปแบบคณะกรรมการสุขภาพดิจิทัลระดับโรงพยาบาล โดย รพศ./รพท.มีรองผู้อำนวยการรพ.ด้านดิจิทัล 1 คน มอบหมายให้เป็นหัวหน้าภารกิจ ส่วนรพช.มีผู้อำนวยการฯดูแล
อย่างไรก็ตาม การเตรียมพร้อมระบบดิจิทัลสุขภาพ ยังการันตีถึงความพร้อมที่จะเริ่มดีเดย์! เดือนมกราคม 2567 กับการให้บริการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ทุกเครือข่าย ทั้งรัฐและเอกชน นำร่อง 4 จังหวัดมี มีแพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส และในเดือนมีนาคมจะขยายอีก 8 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ นครราชสีมา สระแก้ว และพังงา