กรมการแพทย์แผนไทยฯ ชู “3 ชาสมุนไพร” ดูแลสุขภาพช่วงเทศกาลตรุษจีน
กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะเทคนิคดูแลสุขภาพชู 3 ชาสมุนไพร ทั้งชาดอกคำฝอย ชาปัญจขันธ์ ชาเก็กฮวย รับประทานเพื่อลดผลเสียต่อสุขภาพ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
วันที่ 10 ก.พ. 67 นายแพทย์กุลธนิต วนรัตน์ ผู้อำนวยการกองการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ประชาชนมักบริโภคอาหารเป็นจำนวนมาก โดยมีอาหารจำพวกแป้ง เนื้อสัตว์ ที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทั้งอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน เป็นต้น
ตามศาสตร์การแพทย์จีนมีข้อแนะนำในการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ดังนี้
1. ไม่ควรรับประทานอาหารต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และไม่รับประทานอาหารอิ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้ม้าม และกระเพาะอาหารทำงานหนัก
2. ควรรับประทานอาหารในแต่ละมื้อโดยยึดหลักที่ว่า มื้อเช้ารับประทาน อาหารที่ดี มื้อกลางวันรับประทานแต่พออิ่ม มื้อเย็นรับประทานให้น้อย
3. ควรควบคุมอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง อาหารรสมัน อาหารรสจัด ที่สำคัญควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ที่หวานน้อย เต้าหู้ และอาหารที่มีรสจืด
นายแพทย์กุลธนิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับเครื่องดื่มที่เหมาะจะดื่มในช่วงนี้ ควรจะเป็นในประเภทชาสมุนไพร ซึ่งจะช่วยส่งผลดีกับร่างกายโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ชาดอกคำฝอย (หงฮวา) ช่วยลดและป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลดความดันโลหิต และบำรุงหัวใจ ชาปัญจขันธ์ (เจียวกู้หลาน) ช่วยลดไขมันชนิดเลว และ รักษาสมดุลของไขมันชนิดดี ลดความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน และช่วยทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญไขมันได้ดี และ ชาเก็กฮวย (จวี๋ฮวา) แก้ร้อนใน กระหายน้ำทำให้ร่างกายสดชื่น มีฤทธิ์ลดระดับความดันโลหิต และช่วยป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด สำหรับ การรับประทานชา ทั้ง 3 ชนิด ดังกล่าว ควรใช้ชาในปริมาณ 3 กรัม ชงกับน้ำร้อนดื่ม ซึ่งสามารถรับประทานได้ทุกกลุ่มวัย และควรทานช่วงที่ท่านรับประทานอาหารที่มีไขมันที่สูง ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
นอกจากการรับประทานอาหารตามคำแนะนำข้างต้นแล้วการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เช่น รำมวยไทเก๊ก ชี่กง ว่ายน้ำ เดินเบา ๆ หรือ ตามความเหมาะสมของสภาพร่างกาย และ ที่สำคัญควรออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยให้ลมปราณที่ติดขัดภายในร่างกายไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนี้เหงื่อที่ออกสามารถช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่ เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/dtam.moph และ ไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก line @DTAM