สปสช.แจงประกาศในราชกิจจาฯ เรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวในพื้นที่กทม. เป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลเดินหน้าเรื่องนี้ แต่ยอมรับยังไม่สมบูรณ์ เพราะอยู่ระหว่างดำเนินการ เบื้องต้นไม่ต้องมีใบส่งตัว รักษาที่ไหนก็ได้ใน รพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกทม. ส่วน รร.แพทย์ อยู่ระหว่างหารือ เบื้องต้นเห็นด้วย เตรียมสื่อสารความชัดเจนอีกครั้ง ด้านรมว.สมศักดิ์ รับทราบพร้อมบัญชาการขับเคลื่อน

ภายหลังจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง จังหวัดที่ดำเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พ.ศ. 2567 ลงนามโดยนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ระบุถึง 42 จังหวัดที่พร้อมดำเนินการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งรวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา เกิดคำถามว่า กรุงเทพมหานคร ยังมีปัญหาเรื่องการส่งต่อผู้ป่วย การรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ฯจะดำเนินการได้จริงหรือไม่

แจง 30 บาทรักษาทุกที่กทม. ทำได้จริง เบื้องต้นรพ.สธ.-กทม.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า จริงๆประกาศดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า รัฐบาลได้ขับเคลื่อนเรื่องนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเป็นการส่งสัญญาณว่า กำลังดำเนินการ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.) ให้เตรียมพร้อมและเดินหน้าพื้นที่กรุงเทพฯ โดยหลังจากวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา หมายความว่า ต้องเริ่มสตาร์ทกันแล้ว แต่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีการประสานข้อมูลอีกครั้งเพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่า ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.เป็นต้นมาขณะนี้ กรุงเทพฯ สามารถรักษาได้ทุกที่ทุกสังกัด หรือเฉพาะสังกัดรพ.กระทรวงสาธารณสุขก่อน นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในมติบอร์ดให้เริ่มดำเนินการเมื่อมีความพร้อม โดยกรุงเทพฯ ตามมติ อปสข. หรืออนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขต ให้ดำเนินการได้เลย แต่การจะเริ่มได้นั้นก็ต้องมีการประสานข้อมูลต่างๆ ยอมรับว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มดำเนินการ ยังไม่สามารถจะไปบริการที่ไหนก็ได้ทุกเครือข่ายทุกสังกัดในกทม. ณ ขณะนี้ แต่กำลังพยายามขับเคลื่อน

ย้ำไม่ต้องมีใบส่งตัว สปสช.ก็พร้อมจ่ายแน่นอน
“แน่นอนว่าประชาชนสิทธิบัตรทอง กทม. รับบริการที่ไหนก็ได้ในรพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงสถานบริการสังกัดกทม.ก็สามารถดำเนินการได้ เพราะสปสช.ได้หารือกับทางกรุงเทพมหานครที่ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เพราะสปสช.ยืนยัน เราจ่ายแน่นอน โดยมีสายด่วน 1330 จะตอบแทนเรื่องการเบิกจ่ายได้ และหากประชาชนไม่รับความสะดวกให้ติดต่อมาได้ที่เบอร์เดียวกันนี้” เลขาธิการ สปสช.กล่าว

เร่งเคลียร์ปัญหาใบส่งตัว ย้ำไม่มีก็จ่ายเงิน
เมื่อถามว่าปัญหาตอนนี้คลินิกชุมชนอบอุ่นส่วนหนึ่งไม่ยอมออกใบส่งตัว ขณะที่รพ.แม่ข่าย ก็ต้องการใบส่งตัวส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย นพ.จเด็จ กล่าวว่า เรากำลังสื่อสารว่า ไม่ต้องมีใบส่งตัวให้ไปรับบริการได้ แต่ต้องบอกว่า เราไม่ได้สนับสนุนให้ไปรักษารพ.ใหญ่ เพราะจะยิ่งเพิ่มความแออัด ยิ่งหากไม่ได้เจ็บป่วยรุนแรง อย่างเจ็บป่วยเล็กน้อย สามารถรับบริการหน่วยปฐมภูมิ หรือคลินิกได้ เพียงแต่หากเจ็บป่วยอยู่พื้นที่ใดที่ใกล้ๆ แม้จะไม่ใช่หน่วยปฐมภูมิตามสิทธิ หากเป็นรพ.ในโครงการก็สามารถรับบริการได้ แต่ตอนนี้ขอความร่วมมือเป็นรพ.ในสังกัดสธ. กับของกทม.และของเอกชนบางแห่งที่อยู่ในโครงการบัตรทอง

ถามว่าปัญหาเรื่องใบส่งตัวจะดำเนินการแก้ไขได้เมื่อไหร่ ให้สามารถคิกออฟว่า 30 บาทรักษาทุกที่ในกทม.ได้ในรพ.ทุกเครือข่ายจริงๆ นพ.จเด็จ กล่าวว่า ขณะนี้ได้หารือกับรพ.ทุกสังกัดในกทม. โดยเฉพาะโรงเรียนแพทย์ เบื้องต้นเข้าใจกันดีแล้วว่า ไม่ต้องมีใบส่งตัวก็มารักษาได้ เพียงแต่จะมีความกังวลเรื่องประชาชนมารับบริการมาก ทำให้ต้องรอคิว ตรงนี้เราก็ต้องสื่อสารกับประชาชนว่า ขอให้รับบริการใกล้บ้านก่อน

หากเดินทางรักษาที่ไหนก็ได้ อย่างรร.แพทย์ ก็ต้องผ่านการคัดกรองก่อน
ถามอีกว่ากรณีประชาชนต้องการไปรร.แพทย์ เพราะต้องการรักษาคลินิกเฉพาะทาง นพ.จเด็จ กล่าวว่า มีการหารือกันว่า ระบบการรักษาจะต้องคัดกรองความจำเป็นของโรคก่อน หากไม่จำเป็นต้องรักษาคลินิกเฉพาะทางก็ยังไม่สามารถรักษาได้ ต้องเป็นไปตามกระบวนการคัดกรองของโรค โดยแต่ละรพ.ก็จะมีหน่วยคัดกรองตรงนี้ อย่างไรก็ตาม สปสช.กำลังพิจารณาว่า จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ประสานข้อมูลต่างๆ อยู่หน้างานในรพ.ที่มีความต้องการ

ประกาศราชกิจจาฯ เป็นคอมมิททำแน่ 30 บ.รักษาทุกที่
“ขอย้ำว่า ประกาศสปสช.ที่ออกมา เป็นการคอมมิทว่า จะมีการดำเนินการ แต่เรื่องการบริการต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ แต่ในส่วนสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และกทม.ได้แน่นอน ยังติดเรื่องรร.แพทย์ รพ.รับส่งต่อ ซึ่งกำลังหารือวางแผนร่วมกัน และจะทยอยออกมาตรการต่างๆมากยิ่งขึ้น หากติดขัดอะไรขอให้ติดต่อสปสช.1330 ทั้งคลินิก ทั้งรพ. และประชาชน” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญจะมีมาตรการส่งเจ้าหน้าที่สื่อสารผู้ปฏิบัติงานหน้างานที่โรงพยาบาลต่างๆ ด้วย ทางสปสช.กำลังเตรียมการ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับทราบและจะลงมาบัญชาการขับเคลื่อนต่อไป