ให้ระวังก่อนกิน! อาหารที่อาจทำให้ “ท้องเสีย”
เคยสังเกตกันไหม บางทีกินอะไรเข้าไปจู่ๆ ก็ท้องเสียเฉยเลยทั้งๆ ที่เลือกกินของสะอาด เพิ่งทำใหม่ ดูแล้วน่าจะปลอดภัยแท้ๆ พอเป็นทีก็ปวดมวนท้องวิ่งเข้าห้องน้ำกันจนเพลีย ทำเอาทรมานสุดๆ ไปเลย วันนี้เราเลยยกอาหาร 10 อย่างที่กระตุ้นอาการท้องเสียได้ในบางคน หรือหากท้องเสียอยู่แล้วมากินเข้าไปก็จะยิ่งถ่ายบ่อยขึ้นด้วย หากรู้ตัวว่าเรากินอะไรแล้วท้องเสียจะได้ระวังเรื่องได้แต่เนิ่นๆ
1. อาหารไขมันสูง
ของทอดทั้งหลายหรืออาหารมันๆ เช่น ฟาสต์ฟู้ด ขาหมู ข้าวมันไก่ อาหารที่ใส่กะทิ วิปปิ้งครีม ครีมชีส หรือเบเกอรี่ เป็นอาหารที่อร่อยก็จริง แต่หากกินเข้าไปมากๆ ไขมันร้ายที่แฝงอยู่ในอาหารพวกนี้ก็อาจกระตุ้นอาการท้องเสียได้ เนื่องจากเป็นอาหารที่ร่างกายย่อยยาก และเมื่อเจ้าไขมันไม่ถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ ร่างกายก็จะพยายามขับออกมาไวๆ ทำให้เราท้องเสียหลังกินเข้าไปไม่นาน
2. อาหารรสจัด
สายแซ่บที่ชอบกินอาหารรสเผ็ดจัดอาจต้องทรมานกับอาการท้องเสียด้วย เพราะพริกมีสารแคปไซซินที่มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และยังมีงานวิจัยที่พบว่า นอกจากอาการท้องเสีย สารชนิดนี้ยังส่งผลให้เกิดอาการปวดแสบท้อง คลื่นไส้และอาเจียนได้ในบางคน โดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นชินกับอาหารรสเผ็ด แถมถ้าท้องเสียเพราะอาหารรสจัด เวลาถ่ายก็จะรู้สึกแสบร้อนที่รูทวารหนักจากความเผ็ดร้อนของแคปไซซิน และหากเราดื่มน้ำแก้เผ็ดเข้าไปมาก ๆ อุจจาระก็จะค่อนข้างเหลว ทำให้การขับถ่ายยิ่งคล่องตัวไปด้วย
3. อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
อาหารหรือเครื่องดื่มน้ำตาลสูงก็เป็นตัวการทำให้ท้องเสียได้เช่นกัน รวมไปถึงรสหวานจากน้ำตาลฟรุกโตสในผลไม้ เช่น แอปเปิล หรือองุ่น ด้วยนะคะ เพราะน้ำตาลชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และลำไส้ไม่สามารถย่อยได้ เมื่อรับประทานเข้าไปมากๆ จึงอาจทำให้มีอาการท้องเสีย อีกทั้งการมีน้ำตาลเกินขนาดที่ร่างกายควรได้รับก็จะทำให้ร่างกายพยายามขับส่วนที่ไม่ได้ใช้ออกไป และน้ำตาลยังจะเข้าไปกระตุ้นให้สารน้ำเข้าสู่ลำไส้ ทำให้ลำไส้มีปริมาณน้ำมากขึ้น การขับถ่ายจึงคล่องตัวขึ้น ดังนั้นบางคนที่ดื่มน้ำหวานเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า จึงอาจมีอาการถ่ายท้องอย่างเฉียบพลันนั่นเอง
4. สารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล
น้ำตาลเทียมหรือสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น แอสปาร์แตม, แซกคาริน, ซูคราโลส, แมนนิทอล, ซอร์บิทอล หรือไซลิทอล เป็นสารที่ร่างกายดูดซึมไม่ค่อยดี บางคนเมื่อกินเข้าไปจึงอาจตกค้างในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียในลำไส้เพิ่มจำนวนขึ้นมาเพื่อพยายามย่อยอาหารชนิดนี้ ซึ่งกระบวนการย่อยดังกล่าวก็จะทำให้มีอาการท้องเสียได้
อีกทั้งสารให้ความหวานแทนน้ำตาลทั้งหลายยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ด้วย ดังนั้นถ้าสงสัยว่าตัวเองท้องเสียเพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาล แนะนำให้เลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง ลูกอม เครื่องดื่มไดเอต รวมทั้งเครื่องปรุงประเภทโลว์ชูการ์ทั้งหลายดู
5. อาหารไฟเบอร์สูง
เรารู้กันดีว่าไฟเบอร์ช่วยในการขับถ่าย ดังนั้นหากรู้สึกว่าท้องไส้ไม่ค่อยจะดีก็อย่าเพิ่งกินอาหารไฟเบอร์สูงจะดีกว่า เพราะไฟเบอร์อาจไปจับตัวกับน้ำในลำไส้ และพากันเอาอาหารที่ตกค้างอยู่ในลำไส้เคลื่อนตัวออกมาสู่โลกกว้างได้ โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำและตระกูลผักกาด ที่มีน้ำตาลชนิดที่ลำไส้ไม่สามารถย่อยได้ อีกทั้งยังมีกำมะถัน ที่อาจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน เกิดอาการท้องอืด จุกเสียด หากกินเข้าไปในปริมาณมากด้วย
6. ถั่ว
ถั่วจัดเป็นอาหารในกลุ่ม High FODMAPs ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตชนิดย่อยยากและน้ำตาลหลากหลายโมเลกุลในตัวเอง จึงอาจทำให้การทำงานของลำไส้แปรปรวนและก่อเกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย มีลม มีกรดแก๊สในกระเพาะได้ โดยเฉพาะหากกินถั่วปริมาณมากๆ
7. กลูเตน
กลูเตนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในอาหารประเภทข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ และธัญพืชต่างๆ ซึ่งร่างกายบางคนไม่สามารถย่อยโปรตีนชนิดนี้ได้ เมื่อกินกลูเตนเข้าไปจึงอาจมีอาการท้องเสียตามมา
8. ผลิตภัณฑ์จากนม
ทราบไหมคะว่าคนไทยส่วนหนึ่งไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ย่อยโปรตีนแลคโตสในนมวัว ดังนั้นหากรับประทานนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไปก็จะเกิดอาการท้องเสีย ท้องอืด แน่นเฟ้อ และมีปัญหาระบบย่อยอาหารอื่นๆ เพราะร่างกายเกิดปฏิกิริยาบางอย่างเพื่อที่จะพยายามย่อยแลคโตสให้ได้ จึงทำให้ระบบการย่อยอาหารแปรปรวนนั่นเอง เช่นนั้นแล้วหากรู้ตัวว่าแพ้นมวัว ก็พยายามเลี่ยงหรือลดอาหารเหล่านี้จะดีกว่า หรือหันไปดื่มนมแลคโตสฟรี และนมจากธัญพืชแทนก็ได้
9. กาแฟ และอาหารที่มีคาเฟอีน
คาเฟอีนมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ทั้งยังมีส่วนกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และงานวิจัยจาก International Foundation for Gastrointestinal Disorders (IFFGD) ยังพบว่า การดื่มกาแฟหรือชา 2-3 แก้วต่อวัน มีส่วนก่อให้เกิดอาการท้องเสียได้ในบางคน ยิ่งหากดื่มกาแฟที่ใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือใส่นม ก็อาจทำให้รู้สึกอยากถ่ายมากขึ้นไปอีก ซึ่งหากเราดื่มกาแฟแล้วท้องเสียก็ควรเลี่ยงอาหารอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีนไว้หน่อย อย่างชา ช็อกโกแลต น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ
10. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ในกระเพาะอาหาร เมื่อดื่มเข้าไปจึงทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ง่าย โดยเฉพาะหากคืนไหนดื่มเบียร์หรือไวน์ เช้าขึ้นมาจะรู้สึกมึนนิดๆ แฮงก์หน่อยๆ แถมด้วยอาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวได้ง่ายกว่าปกติ เพราะเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะกระตุ้นให้สารน้ำเข้าสู่ลำไส้มากขึ้นนั่นเอง