หยุดเลย! “กินยาดักไข้ก่อนจะป่วย” ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังส่งผลเสียต่อร่างกาย
หลายคนมีพฤติกรรมที่ชอบกินยาดักก่อนที่จะป่วย ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านมักจะเตือนเราเสมอว่า “เดี๋ยวไม่สบายนะ ไปกินยาดักไว้ก่อน” ซึ่งบอกเลยว่าไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย
ขึ้นชื่อว่า “ยา” หมายถึงสิ่งที่ใช้แก้โรค ป้องกันโรค หรือบำรุงร่างกาย แต่ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะกินยาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยหรือรักษาโรค ยาไม่ใช่ขนม หรือข้าวที่เราจะกินได้เรื่อยๆ ตามที่ใจอยาก และที่สำคัญยาทุกตัวมีผลข้างเคียง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับฤทธิ์ยา ประเภทยา ปริมาณยา และร่างกายของแต่ละคน จากที่จะรักษาอาการป่วยจะกลายเป็นการดื้อยาไปแทน
ปกติแล้ว เมื่อร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันน้อยลง โอกาสที่จะเจ็บป่วยก็เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าร่างกายเราอ่อนแอ ไม่ว่ายังไงเราก็ป่วยอยู่ดี แต่ถ้าเราแค่เริ่มรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกเหมือนจะป่วย เราไม่จำเป็นต้องกินยาอะไรเลย เพียงแค่พยายามเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นเท่านั้นก็พอ
ยายอดฮิตที่คนมักกินดักไข้
– พาราเซตามอล เป็นยาที่เรากินกันบ่อยที่สุดเมื่อรู้สึกไม่สบาย ซึ่งสรรพคุณของยาพาราเซตามอลจะไปลดไข้ บรรเทาปวด กลายเป็นความเข้าใจผิดที่ว่าถ้าไม่อยากปวดหัวหรือเป็นไข้ ก็ให้กินพาราเซตามอลดักเอาไว้ แต่รู้ไหมว่าหากกินติดต่อกันเกินวันที่ 8 เม็ดติดต่อกันนาน 5-7 วัน จะมีผลต่อตับของเราอย่างแน่นอน
– ยาแก้แพ้ เป็นยากลุ่มต้านฮิสตามีน ช่วยลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เมื่อมีอาการจามหรือเริ่มมีน้ำมูกเราก็จะหันไปพึ่งยาแก้แพ้ ซึ่งยาแก้แพ้มีทั้งแบบง่วงและไม่ง่วง ยาที่ทำให้ง่วงทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองช้า ส่วนยาแก้แพ้ที่ไม่ง่วงทำให้ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน ปากแห้ง ตามัว ที่สำคัญก็มีผลต่อตับด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากนี้อยากให้เลิกพฤติกรรมกินยาดัก ควรกินยาเฉพาะเมื่อป่วยจริงๆ อย่าไปทึกทักเอาเองว่ากินยาดักแล้วจะไม่ป่วยเพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก ยาแต่ละชนิดล้วนอันตราย ดังนั้นก่อนที่จะหยิบยาขึ้นมากิน ควรอ่านฉลากยาให้ละเอียด หรือปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้