สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเรื่องรายสุดแปลก เมื่อชายชาวตุรกี วัย 56 ปี ใช้เวลา 14 เดือนอย่างโดดเดี่ยว เนื่องจากมีผลตรวจโควิดเป็นบวกมาไม่ต่ำกว่า 78 ครั้ง นับตั้งแต่ติดเชื้อในเดือน พ.ย. 2563

ชายคนดังกล่าวคือ มูซัฟเฟอร์ คายาซาน (Muzaffer Kayasan) วัย 56 ปี เขาถูกกักตัวในโรงพยาบาลและบ้านของเขาเองมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติได้ หลังจากติดโควิด-19 เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2563 และถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจนอาการดีขึ้นตามลำดับ

แต่ปัญหาคือเชื้อไวรัสไม่ยอมหมดไปจากร่างกายของเขา และไม่ว่าจะตรวจกี่ครั้งๆ ผลก็ออกมาเป็นบวก ซึ่งทำให้มูซัฟเฟอร์ต้องกักตัวต่อมาเรื่อยๆ ทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน

ชายวัย 56 ปี รายนี้ ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งแพทย์อธิบายว่า เหตุใดเชื้อไวรัสโคโรนาจึงค้างอยู่ในร่างกายได้นานขนาดนี้ แม้ว่าแพทย์จะจ่ายยาเพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกัน แต่กระบวนการนี้ต้องใช้เวลานานและเป็นเรื่องยาก

การกักตัวนานกว่า 1 ปี ทำให้มูซัฟเฟอร์เริ่มเผชิญปัญหาเรื่องการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม ญาติ และเพื่อน เพราะมีเพียงภรรยากับลูกชายคนเล็กเท่านั้นที่คอยดูแล ส่วนหลานๆ ต้องพูดคุยกันผ่านกระจกตลอดเวลา

“ผมไม่สามารถสัมผัสหรือใกล้ชิดกับคนที่ผมรักได้ และด้วยโรคที่เป็นอยู่ แม้แต่จะฉีดวัคซีนก็ทำไม่ได้” เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว

ทั้งนี้ มูซัฟเฟอร์ ยังฝากทางการตุรกีหาวิธีช่วยเหลือตนด้วย เพราะไม่อยากจะทนอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไป