อาการ “ไอแห้ง” บ่งบอกว่าเราป่วยอะไรได้บ้าง
อาการไอแห้ง คือ อาการไอไม่มีเสมหะ ไม่มีน้ำลาย อาจมีอาการคันคอ ระคายคอ เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่เราจะรู้ได้ไงว่าไอแห้งแบบไหนถึงจะร้ายแรงและควรพบแพทย์โดยด่วน วันนี้จึงยกตัวอย่างอาการป่วยที่อาจทำให้เกิดการไอแห้งมาให้เช็คดู
1. สิ่งระคายเคืองคอ เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียเครื่องยนต์ ฝุ่นละออง กลิ่นสารเคมีหรือกลิ่นฉุนบางอย่าง ก็อาจทำให้ระบบทางเดินหายใจเกิดระคายเคืองและส่งผลให้เราไอแห้งขึ้นมาได้
2. ภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้แค่เจอกับสิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีอาการไอแห้งๆ นอกจากนี้ยังอาจมีอาการน้ำมูกไหล น้ำตาไหล คันยิบๆ ที่จมูก ตา การรักษาก็ควรรีบหลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างไว
3. หอบหืด เป็นโรคที่สภาพอากาศก็มีผลต่ออาการ หรือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อหลอดลมตีบ เยื่อบุในหลอดลมอักเสบ หรือหลอดลมฝอยตีบ ทำให้หายใจไม่สะดวก
4. ไอกรน สำหรับคนที่ไอแห้งๆ ติดต่อกันเป็นชุดใหญ่ และมีอาการไอเรื้อรังมานานเกิน 10 วัน หายใจเข้าแรงจนเกิดเสียงดัง “วู้ป” ยิ่งถ้ามีอาการไอแห้งๆ ร่วมกับอาการตาแดง มีไข้ต่ำๆ น้ำมูก น้ำตาไหล ก็น่าจะใช่อาการของโรคไอกรน
5. โรคไอ 100 วัน เป็นโรคที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ในปัจจุบันจะเรียกโรคนี้ว่า ภาวะหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยไม่มีไข้ ไม่ได้ป่วย และสุขภาพโดยรวมก็ดูสบายดี
6. โรคกรดไหลย้อน หากไอแห้งๆ หลังกินอิ่มและหลังล้มตัวลงนอน ร่วมกับมีอาการแสบร้อนกลางอกหรือเรอเปรี้ยว แบบนี้อาจเป็นโรคกรดไหลย้อนอยู่ก็ได้
7. ผลข้างเคียงจากยา โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิตในกลุ่ม ACE inhibitors ซึ่งใช้รักษาอาการผู้ป่วยโรคไตและเบาหวาน รวมไปถึงยารักษาโรคกระดูกพรุน ซึ่งหากรับประทานไม่ถูกเวลาหรือไม่ถูกวิธี ก็อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองหลอดอาหาร จนเกิดอาการแสบหน้าอก ไออย่างรุนแรง หรือไอเป็นเลือดได้
8. ปอดอักเสบ อาการปอดอักเสบในระยะแรกๆ อาจมีอาการคล้ายหวัด แต่ในระยะหลังอาจมีอาการไข้สูง หนาวสั่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เจ็บชายโครง และหากไม่รีบรักษาก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้
หากเช็คแล้วมีอาการอย่างที่บอกข้างต้นก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป