ราชกิจจาฯ ประกาศขยายระยะเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วราชอาณาจักร ต่ออีก 2 เดือน
วันที่ 23 ก.ค.2564 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศเรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 13) มีใจความว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ 12 ออกไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2564 นั้น
ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วน ทั้งการค้นหาและการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ การเร่งเสริมสร้างศักยภาพการให้บริการด้านสาธารณสุขเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ
โดยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมการจัดระบบการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อที่แยกกักตัวที่บ้าน และแยกกักตัวในชุมชนการเร่งจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อผู้ป่วย เร่งรัดจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้ได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และกำหนดให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้สามารถฉีดวัคซีนได้กว้างขวางมากที่สุด เพื่อป้องกันโรคและลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต
รวมถึงเร่งรัดผลิตยารักษาโรคขึ้นภายในประเทศและจำกัด การเคลื่อนย้ายการเดินทางของบุคคล เพื่อสกัดกั้นการระบาดให้อยู่ในวงจำกัด และอยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขสามารถรองรับได้ อย่างไรก็ตามโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้กลายพันธุ์ และสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม
โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภูมิภาคหลายจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องในลักษณะการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ กรณีจึงจำเป็นที่จะต้องคงไว้ซึ่งมาตรการที่เข้มข้นในการเฝ้าระวัง และสอบสวนโรครวมทั้งการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค เพื่อความมั่นคงปลอดภัยด้านสุขภาพและชีวิตของประชาชน และสาธารณสุขของประเทศ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2564 จึงให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2564 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2564 ประกาศ ณ วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี