“น้ำผึ้ง” ของหวานที่ดีต่อสุขภาพ
เชื่อว่า “น้ำผึ้ง” เป็นหนึ่งในของหวานที่หลายๆ คนโปรดปราน ไม่ว่าจะนำมาชงดื่มหรือมาราดบนขนมก็ล้วนอร่อยไปหมด แต่จะมีใครรู้บ้างว่าน้ำผึ้งนี้นอกจากจะเป็นของอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ทางยาอีกด้วย
ประโยชน์จากน้ำผึ้ง
– ช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย
– ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
– ช่วยให้ความเครียดลดลง
– ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
– เพิ่มความกระจ่างใสบริเวณใบหน้า
– สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดสิวได้
– ช่วยบรรเทาอาการหวัด และเจ็บคอ
– บำรุงให้เส้นผมแข็งแรง
การรักษาจากน้ำผึ้งที่คาดว่าได้ผล
1. ทาน้ำผึ้งลงบนผิวหนังที่เกิดแผลไหม้อาจช่วยในการรักษาแผลได้
2. น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบและเชื้อแบคทีเรีย ทำให้รักษาแผลสดหรือแผลไหม้ระดับที่ 2 ชนิดตื้นได้
3. กินน้ำผึ้งทุกวันส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอล และน้ำหนักตัวของผู้ป่วยเบาหวานลดลง
4. กินน้ำผึ้งจำนวนเล็กน้อยก่อนนอนอาจช่วยลดอาการไอในเด็กที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปได้
5. น้ำผึ้งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเยื่อบุช่องปากอักเสบ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการฉายรังสีได้
วิธีทานน้ำผึ้งให้อร่อย และได้ประโยชน์
1. ผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่ม 3 เวลา ก่อนอาหาร 1 ชม. และก่อนเข้านอน
2. ทานเหมือนเป็นสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น ใส่ลงไปในเครื่องดื่ม ชา น้ำผลไม้ หรือทานบนขนมปังแทนแยม เป็นต้น
ทานน้ำผึ้งมากเกินไป มีโทษอย่างไร
1. อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสียได้ เนื่องจากมีน้ำตาลฟรุกโตสอยู่มาก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในการดูดซึมในลำไส้
2. น้ำผึ้งยังไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
3. ไม่ควรให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบ และสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรดื่มน้ำผึ้ง เพราะน้ำผึ้งอาจมีสปอร์ของเชื้อโรค ที่อาจทำให้เป็นโรคโบทูลิซึ่มได้ (โรคผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นเฉียบพลันจากการรับพิษ Botulinum toxin)