“สะเดา” สมุนไพรผักพื้นบ้าน กับสรรพคุณเด่นๆ
ตั้งแต่เด็กหลายคนคงได้ยินประโยคที่ว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา ซึ่ง “สะเดา” เองก็มีรสชาติขมปี๋ แต่บอกเลยว่าสรรพคุณไม่ธรรมดาเพราะถูกจัดให้เป็นสมุนไพรผักพื้นบ้าน เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย
ประโยชน์ของสะเดา
– ช่วยขับสารพิษตกค้างในร่างกาย เพียงนำใบสะเดามาต้มกับน้ำแล้วจิบทานตอนเช้า
– ช่วยกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– ใบและเมล็ดสะเดา จะมีฤทธิ์ในการยับยั้งแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา จึงช่วยบรรเทาอาการเชื้อราบนผิวหนังและเล็บ
– ช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังอักเสบ ผดผื่น ลมพิษ และสะเก็ดเงิน
– เมล็ดสะเดาและเปลือกต้นช่วยลดอาการปวดและบวมในข้อ รักษาอาการของโรครูมาตอยด์ เก๊าท์ และโรคกระดูกพรุน โดยการนำมาสกัดเป็นน้ำมันแล้วทาในบริเวณที่มีอาการ
– ช่วยระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
– กระตุ้นน้ำดีช่วยทำให้ร่างกายเจริญอาหาร อยากอาหาร
– มีคุณสมบัติช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
– ใบแก่ของสะเดา นำมาบดผสมน้ำ แล้วชะโลมให้ทั่วศีรษะ จะช่วยรักษาโรคเหาได้
– ดอกสะเดาช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวารได้
– ช่วยบรรเทาอาการปัสสาวะขัด
– ช่วยบรรเทาอาการไข้ แก้ร้อนใน
– ดอกมีฤทธิ์ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการคันคอ
– มีส่วนช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
– ยอดอ่อน และดอกสะเดาจะช่วยบำรุงธาตุลม
– ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรเทาอาการท้องผูก
– รักษาอาการท้องร่วง
– ช่วยบำรุงเหงือกและฟัน รักษาอาการติดเชื้อในช่องปาก โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือกอักเสบ
– ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผม
– มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอก และโรคมะเร็ง
– สารพอลิแซ็กคาไรด์ และสารลิโมนอยด์ในสะเดา มีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งบางชนิด
ข้อควรระวัง
– ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรทานสะเดา เพราะสะเดาเป็นพืชที่มีโพรแทสเซียมสูง
– ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงการทานสะเดา เพราะรสขมของสะเดาจะไปกระตุ้นการสร้างน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
– หญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการทานสะเดา เพราะจะทำให้ไม่มีน้ำนม
– ผู้ที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการทานสะเดาในปริมาณมาก เพราะอาจะทำให้เกิดอาหารหน้ามืด เป็นลมได้