“เผานาข้าว-ไร่ข้าวโพดในไทย” ก่อ PM 2.5 เหนือ พบผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดปอดมากที่สุด
ไทยเผชิญวิกฤต PM 2.5 ต่อเนื่องกว่า 15 ปี ช่วงฤดูกาลฝุ่นปี 66-67 พบ “นาข้าว-ไร่ข้าวโพด” เป็นพื้นที่เกษตรเผาไหม้สูงสุด 11 ล้านไร่ จากทั้งหมด 19 ล้านไร่ เฉพาะ 1 ปีที่ผ่านมา ภาคเหนือ เกิดผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดมากสุดราว 20,000 คน ต่อผู้ป่วยมลพิษทางอากาศแสนคน สสส. สานพลัง Rocket Media Lab พัฒนารายงานสถานการณ์เด่นทางสุขภาพ “จากไฟป่า สู่ไฟเกษตร” เปิดมุมมองข้อเท็จจริง ชวนผู้เกี่ยวข้องขับเคลื่อนงานสู้ฝุ่นตรงจุด
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 68 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในพิธีเปิดกิจกรรม PM2.5 Talk Forum รู้ลึกก่อนใคร….สถานการณ์ฝุ่นปี 2567 เพื่อเฝ้าระวังอนาคต ว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในไทยวิกฤตต่อเนื่องกว่า 15 ปี และยังมีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ เสี่ยงป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หัวใจและหลอดเลือด มะเร็งปอด
สสส. ร่วมกับ สำนักข่าว Rocket Media Lab และภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนสังคมด้วยข้อมูล (Data-Driven Society) จัดทำรายงานสถานการณ์เด่นทางสุขภาพ “จากไฟป่า สู่ไฟเกษตร” รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่การเผา ปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตัวเลขผู้ป่วยโรคจากมลพิษทางอากาศ ระหว่างปี 2566-2567 โดยนำเสนอมุมมองข้อเท็จจริงที่สามารถขยายผลเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหา กำหนดนโยบายสู่การปฏิบัติตามบริบทแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม สร้างผลกระทบการแก้ปัญหาได้สูงสุดในรูปแบบที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย สามารถดาวน์โหลดรายงานหรือติดตามข้อมูลได้ที่ https://resourcecenter.thaihealth.or.th
“ด้วยตระหนักถึงอันตรายต่อสุขภาพในทุกกลุ่มประชากร จึงยกระดับการดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อม เป็น 1 ใน 7 ยุทธศาสตร์หลัก 10 ปี (2565-2574) ผลักดันกระบวนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างมีส่วนร่วม ผ่านกลไก 4 พลัง นโยบาย ปัญญา สังคม และสื่อสาร นอกจากนี้ ยังมีส่วนร่วมผลักดันร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. มุ่งเป้าสร้างแนวทางการจัดการมลพิษทางอากาศแบบสุขภาพนำสังคม หรือสังคมอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว
นายสันติชัย อาภรณ์ศรี บรรณาธิการบริหาร Rocket Media Lab กล่าวว่า จากการศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลในช่วงฤดูกาลฝุ่นในไทยระหว่างปี 2566-2567 พบว่า การเผานาข้าวและไร่ข้าวโพด คือ พื้นที่เกษตรที่มีการเผาไหม้สูงสุด 11 ล้านไร่ จากพื้นที่เผาไหม้ทั้งหมด 19 ล้านไร่ ขณะที่พื้นที่ไฟป่าลดลงกว่าครึ่งหนึ่งจาก 7 ล้านไร่ เหลือ 3.2 ล้านไร่
เฉพาะ 1 ปีที่ผ่านมา ภาคเหนือ มีพื้นที่การเผาสูงที่สุดสม่ำเสมอทุกช่วงต้นปี ประกอบกับฝุ่นควันข้ามแดนจากการเผาซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้เกิดผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดมากที่สุด ประมาณ 20,000 คนต่อผู้ป่วยมลพิษทางอากาศแสนคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่เผาเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 500% ภาคตะวันออก เพิ่มสูงขึ้น 371% รองลงมาภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคเหนือ และภาคใต้ ตามลำดับ
ที่สำคัญพบว่า ฝุ่นควันข้ามพรมแดนจากประเทศเพื่อนบ้านที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น จาก 1.3 ล้านตัน ในปี 2566 เพิ่มเป็น 2 ล้านตัน ในปี 2567
นายสันติชัย กล่าวต่อว่า การเผา เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมลพิษฝุ่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้น จากข้อมูลจำนวนผู้ป่วยรายโรค จากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) กระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2565-31 ต.ค. 2566 และ 1 พ.ย. 2566-31 ต.ค.2567 พบว่า ภาคตะวันออก มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับอัตราการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เผาไหม้ที่อยู่ในอันดับ 2 โดยเพิ่มจาก 7.8 แสนคน ในปี 2566 เป็น 9 แสนคน ในปี 2567 หรือเพิ่มขึ้น 14%
โดยเฉพาะ จ.สระแก้ว ที่มีจำนวนผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้น 16% ซึ่ง จ.สระแก้ว เป็นจังหวัดที่มีการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากที่สุดในภาคตะวันออก และมีอาณาเขตติดกับกัมพูชาที่พบเป็นพื้นที่ที่มีจุดการเผาไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปีที่ผ่านมา สะท้อนปัญหาการเผานาข้าวและไร่ข้าวโพด เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 จึงควรสร้างความร่วมมือเร่งแก้ปัญหาอย่างเคร่งครัด