กสม.จี้ประกันสังคม ให้สิทธิประโยชน์ “ลูกผู้ประกันตน” ตามความเป็นจริง ไม่ใช่บุตรชอบด้วยกฎหมาย
กรรมการสิทธิมนุษยชน ร้องถึง รมว.แรงงาน จี้ประกันสังคมยกเลิกหนังสือเวียนแจ้งสำนักงานสาขาทั่วประเทศ ให้สิทธิประโยชน์ลูกของผู้ประกันตนตามความเป็นจริง ไม่ใช่ “บุตร” ตามกฎหมายเท่านั้น หลังพบตัวเลขมีลูกผู้ประกันตนที่ไม่จดทะเบียนสมรสสูงถึง 3 พันกว่าคน เป็นการไม่เป็นธรรม หากตัดสิทธิ ทั้งที่จ่ายเงินสมทบ ยกเคสคำสั่งศาลตัดสิน ประกันสังคมต้องจ่าย ย้ำคำว่า “บุตร” หมายถึงลูกตามความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ในกฎหมายเท่านั้น
เมื่อเร็วๆนี้ ในเวทีความร่วมมือเพื่อยกระดับสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ซึ่งจัดโดย สภาองค์กรของผู้บริโภค ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอต เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา น.ส.สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ให้ความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนสถานการณ์ปัญหาความแตกต่างสิทธิประโยชน์ด้านบริการสุขภาพของผู้บริโภคในระบบสุขภาพหลักของประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกันตนและผู้มีสิทธิบัตรทอง รวมไปถึงปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ประกันตน
น.ส.สุภัทรา กล่าวว่า ประเด็นของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) คือ ใช้กฎหมายในการบังคับคนทำงานทุกคนต้องเข้าระบบประกันสังคม แต่กลไกการบริหารจัดการไร้ประสิทธิภาพ ผู้ประกันตนจ่ายสมทบแต่สิทธิประโยชน์ โดยเฉพาะสิทธิด้านสุขภาพยังมีความเหลื่อมล้ำ เมื่อเทียบกับสิทธิสุขภาพของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง ทั้งนี้ กสม.เคยทำข้อเสนอเรื่องสิทธิพื้นฐานด้านสุขภาพของผู้ประกันตน หากยังปรับแก้กฎหมายหรือกลไกที่พัฒนาสิทธิไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องได้สิทธิเท่าบัตรทอง เห็นชัดจากสิทธิทันตกรรมของผู้ประกันตนได้เพียง 900 บาท แต่รับบริการได้แค่ 4 อย่าง ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด แถมจำกัดวงเงิน แบบนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้น ต้องกำหนดสิทธิประโยชน์อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานบัตรทอง
ลูกผู้ประกันตนร่วม 3 พันคน เสี่ยงรับผลกระทบ
น.ส.สุภัทรา ยังฝากประเด็นถึงบอร์ดประกันสังคมถึงความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นกับบุตรผู้ประกันตนนอกสมรส ว่า ปัจจุบันมีเด็กราว 3,000 กว่าคนที่เป็นลูกของผู้ประกันตน ที่พ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทำให้ลูกไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ หากพ่อหรือแม่ที่เป็นผู้ประกันตนเสียชีวิตก็จะได้รับ เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตและเงินบำเหน็จชราภาพ โดยให้แก่ครอบครัว หรือบุตร แต่ต้องเป็นบุตรตามกฎหมายเท่านั้น ยกตัวอย่าง เด็กอายุ 10 ขวบ พ่อประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แม่จึงพาลูกไปขอรับสิทธิประโยชน์ของพ่อ ปรากฎว่า สำนักงานประกันสังคมปฏิเสธการจ่าย โดยให้เหตุผลว่า เป็นลูกนอกสมรส ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แม่และลูกจึงไปขอความช่วยเหลือที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนและการบังคับคดีจังหวัด หรือ อัยการ สคช. ซึ่งอุทธรณ์ให้ แต่สำนักงานประกันสังคมยืนยันไม่จ่าย จนมีการฟ้องศาลแรงงาน ใช้เวลา 3 ปี ในที่สุดศาลมีคำสั่งเป็นที่สุดให้จ่ายสิทธิประโยชน์แก่เด็ก และระบุว่า คำว่า “บุตร” ในกฎหมายประกันสังคม ไม่ใช่แค่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่หมายความรวมถึง “บุตร” ตามความเป็นจริงด้วย
“ จากกระบวนการดังกล่าว แม้ประกันสังคมยอมจ่ายให้เด็กคนนี้ แต่กลับไปออกหนังสือเวียนแจ้งโดยสำนักกฎหมายทั่วประเทศ ว่า กรณีเด็กที่เป็นลูกของผู้ประกันตนที่พ่อไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับแม่ ยังคงยึดถืออันเดิม คือ พูดง่ายๆ เด็กคนไหนจะได้สิทธิ หากไม่ได้เป็นบุตรในสมรส ต้องไปขึ้นศาล และต้องใช้เวลา 3 ปีแบบนี้ ซึ่ง กสม.รับเรื่องมาจากสำนักงานอัยการสูงสุด พบว่า มีเด็กที่เข้าข่ายลักษณะนี้ประมาณ 3 พันกว่าคน เรามีหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แต่ก็ยังไม่ถึงบอร์ดประกันสังคมเสียที” น.ส.สุภัทรา กล่าว
น.ส.สุภัทรา กล่าวย้ำว่า สิ่งที่ต้องการให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการให้ถูกต้อง คือ ต้องยกเลิกหนังสือเวียนดังกล่าว เพื่อให้ใช้คำสั่งศาลเป็นบรรทัดฐานที่ประกันสังคมต้องจ่ายเงินให้กับเด็ก ให้กับลูกของผู้ประกันตนทุกคนที่เป็น “บุตร” ตามความเป็นจริงของผู้ประกันตน