กรมสุขภาพจิต แนะ 5 แนวทางดูแลจิตใจหลังเสพข่าวการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
กรมสุขภาพจิต แจ้งเตือนประชาชนระวังเสพข่าวความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทยกัมพูชา และสถานการณ์การเมือง หวั่นเกิดภาวะเครียดทางการเมือง หรือ Political Stress Syndrome (PSS) ส่งผลทั้งทางกาย ใจ และความสัมพันธ์ ขอให้ใช้สติรับฟังข้อมูลอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงถ้อยคำรุนแรง แนะนำดูแลใจด้วย 5 วิธี
นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างหลากหลาย ประชาชนจำนวนไม่น้อยจึงเกิดภาวะความเครียดจากสถานการณ์ดังกล่าว หรือที่เรียกว่า Political Stress Syndrome (PSS) ซึ่งแม้จะมิใช่โรคทางจิตเวชโดยตรง แต่เป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์และจิตใจที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ติดตามข่าวสารทางการเมืองอย่างใกล้ชิด หรือมีแนวโน้มเอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน จนทำให้เกิดอาการทั้งทางร่างกาย จิตใจ และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น
สังเกตอาการความเครียด
ทั้งนี้ มีลักษณะสำคัญ 3 ด้าน คือ
1.อาการทางร่างกาย ได้แก่ อาการปวดตึงบริเวณขมับหรือต้นคอ หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น นอนไม่หลับ หรือมีอาการแน่นท้อง
2.อาการทางจิตใจ เช่น ความหงุดหงิดง่าย โกรธ ฉุนเฉียว เบื่อหน่าย ฟุ้งซ่าน หรือหมกมุ่นกับข้อมูลทางการเมืองจนเกิดความเครียด
3.ปัญหาทางพฤติกรรม เช่น การโต้แย้งหรือโต้เถียงโดยใช้อารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัว หรืออาจถึงขั้นใช้ความรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์
ดังนั้น ประชาชนจึงควรมีสติในการรับฟังข้อมูลอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงผลกระทบจากการแสดงความคิดเห็นหรือใช้ถ้อยคำที่รุนแรง เพราะแม้เจตนาจะเป็นการสื่อสารข้อเท็จจริง แต่หากขาดความระมัดระวังอาจก่อให้เกิดความเกลียดชังและทำให้สถานการณ์มีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การสื่อสารในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์หากขาดการยั้งคิดและเต็มไปด้วยถ้อยคำรุนแรง อาจก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างกับบุคคล 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้พูดหรือผู้ส่งสาร หากใช้อารมณ์มากกว่าสติ อาจใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาทหรือยั่วยุโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม 2) ผู้ฟังหรือผู้รับสาร หากได้รับข้อมูลที่รุนแรงอาจรู้สึกไม่พอใจ เครียด หรือวิตกกังวลจนกระทบสุขภาพจิต และ 3) ผู้คนในสังคม หากการสื่อสารในวงกว้างขาดความระมัดระวังและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ก็อาจทำให้เกิดบรรยากาศของความตึงเครียดและรู้สึกว่าสังคมไม่น่าอยู่
5 วิธีดูแลใจ
จึงขอแนะนำให้ใช้ 5 วิธีดูแลใจ ได้แก่
1) รู้เท่าทันอารมณ์ขณะเสพข่าว
2) จำกัดเวลาในการติดตามข่าวสาร
3) ทำกิจวัตรประจำวันให้สมดุล ไม่ละเลยหน้าที่
4) เคารพความคิดเห็นที่หลากหลายโดยเปิดใจรับฟัง
5) ให้เวลากับการพักผ่อนและผ่อนคลายความเครียด เช่น นอนให้พอออกกำลังกาย ทำสมาธิ หรือฝึกหายใจคลายเครียด
ทั้งนี้ หากพบว่าอาการเครียดมีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตหรือความสัมพันธ์กับผู้อื่น ขอให้รีบขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ณ สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง