“จิรพงษ์” เตือนตระเวนรับยาไปขายต่อ ติดคุกหัวโตแน่นอน สปสช.ดำเนินคดีย้อนหลังได้
สธ.เตือนลักลอบนำยาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ขายในโซเซียล ติดคุกหัวโตแน่นอน ทั้งคนขายคนซื้อ ชี้ สปสช.มีข้อมูลผู้รักษาหมด ดำเนินคดีย้อนหลังได้ เผย กำลังติดตั้งระบบเตือนอัตโนมัติ เบิกยาถี่โดนแน่นอน เล็งชง ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ยา
วันที่ 22 ธันวาคม นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีผู้นำยาในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ มาโพสต์ขายในโซเซียลว่า การแอบลักลอบจำหน่าย ขอเตือนว่า ติดคุกหัวโตแน่นอน ทั้งคนขายและคนซื้อ จากการที่รัฐบาล พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายทางด้านสาธารณสุขจาก 30 บาทรักษาทุกโรค ขยายเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อต้องการให้ประชาชน สามารถเข้าถึงการรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ของรัฐ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการได้ทุกที่
กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลที่สังกัดทุกกรมฯในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งภายในปีนี้ จะแล้วเสร็จ และจะประกาศผลสำเร็จในเดือนมกราคม นี้
นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กำลังดำเนินหลักการเชื่อมต่อการถ่ายโอนข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาลที่สังกัดใน สธ. กับหน่วยงานสาธารณสุขต่าง ๆ ที่ไม่ได้สังกัด สธ. เช่นกับทางสถานบริการสาธารณสุขในการกำกับของกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลในกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ และโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล PDPA
ส่วนเรื่องของการช๊อปปิ้งยานั้น ไม่ได้เกิดการกระทำผิดขณะนี้เท่านั้น แต่ได้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ จากระบบประกันสุขภาพต่างๆของรัฐ และผู้กระทำผิดก็ถูกดำเนินคดี ทั้งทางแพ่งและอาญามาแล้ว
“ผมขอเตือนผู้ที่จะใช้ช่องว่างกระทำการดังกล่าวว่า การรับบริการของหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น ต้องใช้บัตรประชาชนในการลงทะเบียนพิสูจน์สิทธิ และข้อมูลการรักษาการเบิกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็จะเข้าสู่ระบบการเงิน FDH ของ สปสช. ซึ่งสามารถตรวจทาน เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิดได้ง่าย” รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวและว่า
ขณะนี้ สปสช. ก็กำลังติดตั้งระบบเตือนอัตโนมัติเพิ่มเติม เพื่อรายงานความผิดปกติของจำนวนครั้งของการเข้ารับการรักษา และการเบิกยาของผู้ป่วย ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตรวจจับการเบิกจ่ายที่น่าสงสัยได้อย่างรวดเร็วขึ้น
นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า การทำที่ผิดกฏหมายดังกล่าวถือว่า เป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา หมวด 3 มาตรา 341-318 โทษจำคุกสุงสุดไม่เกิด 3-5 ปี ถ้าเบิกยาหลวงไป 10 ครั้งก็ติดคุก 50 ปีแน่นอน มากไปกว่านั้น ตนในฐานะอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงาน ภายใต้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะเสนอให้ สปสช. ดำเนินการแจ้งความผู้กระทำผิดในฐานการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510
การขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมาตรา 12 มีโทษตามมาตรา 101 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี รวมถึงบังคับใช้ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ อีกด้วย สำหรับผู้ซื้อยาจากผู้กระทำผิดขอให้ไปรับการรักษารับยาตามสิทธิฯที่มีอยู่ ไม่จำเป็นที่ต้องมาจ่ายเงินใด ๆ โดยเฉพาะการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่