อย่าคิดว่าจะใช้อะไรสระผมก็ได้ถ้าไม่อยากน้ำตาตก เพราะแม้จะเป็นยาสระผมแพงๆ และมีกลิ่นที่เราชอบก็เกิดอาการ “แพ้ยาสระผม” ได้เหมือนกัน ดังนั้นก่อนจะปักใจใช้นานๆ ควรจะดูให้ดีก่อนว่าเราแพ้หรือเปล่า วันนี้เลยแนะนำถึงวิธีสังเกตและวิธีแก้ให้คอยดูกัน

วิธีสังเกตเมื่อแพ้ยาสระผม
– แสบหนังศีรษะและมีรอยแดง
– มีผดผื่นขึ้นและมีอาการคัน
– สิวอุดตัน สิวผด
– เกิดรังแค หนังศีรษะแห้งตกสะเก็ด
– ผมร่วงหนัก
– มีอาการบวมที่ดวงตาหรืออวัยวะต่างๆ บนใบหน้า

วิธีแก้เมื่อแพ้ยาสระผม
– เมื่อสระผมแล้วมีอาการคันหรือมีอาการแสบร้อนในทันทีให้รีบล้างแชมพูออกจากศีรษะและเส้นผมด้วยน้ำสะอาด
– หากมีอาการแพ้ที่รุนแรงควรหยุดใช้แชมพูและรีบไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษา
– หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมเพื่อหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ
– ระหว่างที่สระผมควรนวดศีรษะเพื่อเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณรอบหนังศีรษะ
– หลีกเลี่ยงแชมพูที่ทำให้เกิดอาการแพ้และควรเลือกใช้แชมพูที่มีค่า pH เหมาะสม
– ปรับอาหารที่ทานเพื่อช่วยในการฟื้นฟูหนังศีรษะจากอาการแพ้โดยเฉพาะอาหารจำพวกโปรตีนโอเมก้า 3 และควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว รวมถึงควรหลีกเลี่ยงชากาแฟและแอลกอฮอล์

วิธีเลือกแชมพูสระผม
หนังศีรษะมัน
หากหนังศีรษะมัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับหนังศีรษะที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้ซีบัม (Sebum) ผลิตน้ำมันออกมา ทำให้หนังศีรษะมันกว่าเดิม

หนังศีรษะแห้ง
สำหรับผู้ที่มีหนังศีรษะแห้ง ควรเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของไดเมธิโคน (Dimethicone) และไซโคลเมธิโคน (Cyclomethicone) ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะ ช่วยให้หนังศีรษะสุขภาพดี ป้องกันปัญหาหนังศีรษะแห้ง

หนังศีรษะปกติ
หากมีสุขภาพหนังศีรษะปกติ ไม่มีปัญหาหนังศีรษะแห้ง ผมแห้ง หนังศีรษะมันหรือผมมัน สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูใดก็ได้ แต่ข้อสำคัญคือควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมอันตราย หรือถ้าหากมีอาการแพ้ต่อสารใด ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้ หรืออาการระคายเคือง