จำใหม่! “ยาหม่อง” ไม่ช่วยแก้ฟกช้ำ ยิ่งทายิ่งแย่ลง
“ยาหม่อง” จัดเป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณโดยหลักๆ แล้ว ยาหม่องทำให้เกิดความร้อนในบริเวณที่ทา กระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว จึงช่วยบรรเทาอาการปวด บวม อักเสบ อันเนื่องมาจากแมลงสัตว์กัดต่อย ซึ่งยาหม่องในปัจจุบันมีทั้งชนิดขี้ผึ้ง และยาหม่องน้ำ อีกทั้งยังมีการจำแนกประเภทเป็นยาหม่องสำหรับทาถู และยาหม่องสำหรับสูดดมด้วย
ยาหม่องแก้ฟกช้ำได้ไหม
อาการฟกช้ำเกิดจากหลอดเลือดใต้ผิวหนังแตกและขยายตัว ทำให้เลือดคั่งใต้ผิวหนังจนเราเห็นเป็นรอยจ้ำสีเขียวหรือสีม่วง ซึ่งหากทายาหม่องแก้ฟกช้ำ ความร้อนของยาหม่องอาจกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัวยิ่งขึ้น และกระตุ้นให้เลือดมารวมตัวกันมากขึ้น ทำให้อาการฟกช้ำแย่ลงได้ ดังนั้นไม่ควรใช้ยาหม่องทาแก้ฟกช้ำดำเขียว แต่ควรประคบเย็นที่รอยช้ำใน 48 ชั่วโมงแรก เพื่อให้หลอดเลือดฝอยหดตัว จากนั้นจึงประคบร้อนต่อใน 48 ชั่วโมงให้หลัง เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
ยาหม่องทาแผลสดได้ไหม
บางคนใช้ยาหม่องทาแผลสด เช่น แผลแมวข่วน แผลสุนัขกัด หรือแผลรองเท้ากัด ซึ่งไม่ควรใช้อย่างยิ่งเพราะยาหม่องมีฤทธิ์ร้อน อาจทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทาเกิดอาการระคายเคือง แสบ แดง คัน แพ้ รวมไปถึงสรรพคุณขยายหลอดเลือดของยาหม่องอาจกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และอาจทำให้แผลยิ่งหายช้ากว่าปกติ
สรุปแล้วคือไม่ควรทายาหม่องกับแผลฟกช้ำและแผลสดที่มีเลือดออกอย่างยิ่งเพราะจะยิ่งทำให้รอยฟกช้ำขยาย ระคายเคือง และแผลอยู่นานขึ้นกว่าเดิม ทางที่ดีแรกเริ่มเอาผ้าเย็นมาประคบกับแผลฟกช้ำไว้จะดีที่สุด
การใช้ยาหม่องที่ถูกต้อง มีข้อปฏิบัติดังนี้
1. เลือกใช้ยาหม่องให้ถูกชนิด เช่น หากใช้ทาควรเลือกแบบทาถู หรือใช้แก้เป็นลมควรเลือกยาหม่องแบบสูดดม
2. ทายาหม่องสูตรทาถูเมื่อมีอาการปวดเมื่อย หรือมีแมลงสัตว์กัดต่อยที่ไม่มีอาการแพ้ บวม แดง ร้อน ในปริมาณที่เหมาะสม
3. สำหรับยาหม่องสูตรสูดดม ควรดมเฉพาะตอนมีอาการวิงเวียน หน้ามืด คล้ายจะเป็นลมเท่านั้น
4. ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ ในกรณีที่ใช้ยาหม่องเป็นครั้งแรก
5. ควรล้างมือก่อนและหลังทายาหม่องทุกครั้ง
6. หากมีอาการแพ้ยาหม่อง เช่น ผิวหนังเป็นรอยแดง แสบร้อนที่ผิว ผื่นขึ้น ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดโดยทันที และหากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์
7. เก็บยาหม่องในอุณหภูมิห้อง ที่ไม่โดนแสงแดด และปิดฝายาหม่องให้สนิททุกครั้งหลังใช้