“สมศักดิ์” คิกออฟฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ให้เด็กนักรียนหนองคาย เชิญชวนรับฉีดวัคซีนโดยไม่เสียค่าจ่าย ปลุกใจ อสม. ร่วมกันเดินสายชวนคนไทยนับคาร์บ กินเป็นไม่ป่วย ลดงบประมาณค่ารักษา – ค่ายา

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 ที่โรงพยาบาลหนองคาย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม Kick off ฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ในเด็กนักเรียนหญิง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จังหวัดหนองคาย โดยมี น.ส.ปราณี วงศ์บุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นพ.ภูวเดช สุระโคตร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข นายนิพนธ์ คนขยัน สส.บึงกาฬ พรรคเพื่อไทย น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย นายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวง อสม.เข้าร่วมงานด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานและมอบนโยบายว่า มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของหญิงไทยที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี โดยมีสาเหตุสำคัญจากการติดเชื้อไวรัส HPV ที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฉีดตั้งแต่วัยเด็ก จะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนสูงสุดสำหรับในปีงบประมาณ 2568 นี้ กระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมาย ที่จะฉีดวัคซีน HPV ทั่วประเทศ ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 รวมถึงหญิงไทยอายุ 11 – 20 ปี ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน HPV มาก่อน โดยวัคซีนที่จะฉีด เป็นวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ ซึ่งป้องกันเชื้อได้ครอบคลุมมากขึ้น และฉีดเพียงเข็มเดียว ช่วยลดความยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับวัคซีนเข็มที่ 2

ทั้งนี้สำหรับกลุ่มที่ได้รับวัคซีน HPV เข็มที่ 1 ในปีที่แล้ว สามารถเข้ารับวัคซีน HPV ชนิดเดิม เข็มที่ 2 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้นานขึ้นได้ โดยที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้ Kick-off การฉีดวัคซีน HPV ที่จังหวัดปทุมธานี พิษณุโลก และสุโขทัยไปแล้ประมาณ 3,700 ราย และที่จังหวัดหนองคายในวันนี้ 1,815 ราย ขอเชิญชวน เด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 และหญิงไทยอายุตั้งแต่ 11 – 20 ปี ที่ยังไม่เคยรับวัคซีน HPV มาก่อน เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกในอนาคต

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ค่าใช้จ่ายในการซื้อวัคซีน 9 สายพันธุ์ 2 สายพันธุ์และ 4 สายพันธุ์เป็นเงินจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เริ่มจาก 30 บาทรักษา และมาเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ตั้งแต่วันที่หนึ่งมกราคม 2568 ที่ผ่านมาจะไปโรงพยาบาลไหนหรือส่งต่อก็สามารถดำเนินการได้ เป็นงบประมาณของ 30 บาทรักษาทุกที่ นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว ยังอยากพูดคุยกับ อสม. ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เราทำร่างพ.ร.บ.ให้กับ อสม.โดย สส.ได้เสนอร่างกฎหมายเข้าสภา เพื่อรับฟังความคิดเห็น

จากนั้นส่งกลับมาให้นายกรัฐมนตรีรับรองเพราะเป็น พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงิน ส่วนร่างพ.ร.บ.อสม.ที่กระทรวงเสนอนั้นยังอยู่ที่อยู่กรมบัญชีกลางระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนหมุนเวียน ก็ยังประชุมหารือกันอยู่ แต่ไม่มีปัญหา ถ้ากระทรวงคลังไม่อยากให้มีกองทุน ถ้าเข้าสภาฯก็แปรญัตติให้มีกองทุนได้ การที่ ร่างพ.ร.บให้มีกองทุน ต้องหารายได้เพิ่มให้สอดคล้องกับงาน อสม. ที่จะไปช่วยทำเรื่อง NCDs

“ ผมเป็น รมว.สธ. ประมาณ 8 เดือน ประชุมสปสช. เห็นเงินที่ใช้ไปกับโรค NCDs เงิน 1.5 แสนล้น ใช้กับ NCDs 52% เช่น การฟอกไตล้างหน้าท้อง และฟอกเลือด ใช้เงิน 16,000 ล้านบาท เงินที่ใช้เกี่ยวกับโรค NCds 46,000 ล้าน ถ้าไม่มีคนป่วย เงินต้องมาเข้ากองทุน อสม ตามที่พรรคเพื่อไทย และ กระทรวงสาธารณสุขเสนอในร่างกฎหมาย และได้ทราบว่าหนองคาย นับคาร์บเป็น 100 % ฉะนั้นต้องเดินไปบอก 30-50 คน ไปสอนเขาให้นับคาร์บเป็น ผมเรียนนับคาร์บ 3 เดือน จากที่วัดค่าน้ำตาลได้ 115 มิลลิกรัม ตอนนี้ลดเหลือ 96 ผมเอาตัวเองทดลอง”นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้อสม.นับคาร์บเป็น 100% เท่ากับ 1,080,000 คน ถ้าอสม.หนึ่งคนไปบอกประชาชน 1 ต่อ 50 คน จะทำให้นับตคาร์บเป็น 50,000,000 คน แล้วบริโภคให้เป็น จะลดภาระงบประมาณด้านการรักษาและค่ายา ยกตัวอย่าง เขตสุขภาพที่ 9 โรงพยาบาลนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ มีการเก็บตัวอย่างจาก 5,814 คน ลดใช้ยาได้ถึง 24 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุขทำลำพังไม่ได้ ต้องมี อสม. เข้าร่วมดำเนินการด้วย และไม่ต้องห่วง เราจะทำให้มีหน้ามีตามีความมั่นคง เช่นเดียวกับ เมื่อวันที่ 6 มกราคาที่ผ่านมา ได้มีการลง MOU กับธกส.ในการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือร้อยละ 6 อย่างช้าคาดว่ากลางเดือนหน้าสามารถกู้เงินได้

นายสมศักดิ์ สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า หนองคายมีทั้งหมด 75 โรงเรียน จะรณรงค์ฉีดให้หมด เชื่อว่าภายในเดือนนี้จะเรียบร้อย ขอบคุณส่วนราชการหนองคายที่ร่วมแรงร่วมใจ สำหรับโครงการนี้เราได้วัคซีนถูกกว่า 10 เท่า ซึ่งภาคเอกขนอยากได้บ้าง อาจจะมีการจัดซื้อรวมกันให้เอกชนดำเนินการฉีดให้กลุ่มสตรี ก่อนหน้านี้ฉีดเข็มละ 5000 บาท แต่เราคิดว่าจะสามารถทำให้ได้ต่อเนื่อง ส่วนกรณีระงับเหตุในโรงพยาบาบกับผู้มีอาการทางจิต ได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพิ่มศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ มีทีมดูแลจิตเวช ต้องฝึกอบรม

จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้เดินทักทายและถ่ายเซลฟี่ร่วมกับ อสม. พร้อมกับเดินทักทายนักเรียนหญิงที่มารับการฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ และเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ ผลการดําเนินงานตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข Medical Hub Wellness Hub R8 NCDs เยี่ยมชม Cardiac Center หอสงฆ์อาพาธ และตรวจเยี่ยมการใช้งาน MOPH Refer เขตสุขภาพที่ 8