สื่อออนไลน์มีอิทธิพลต่อชีวิตคนไทย สถิติคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางอินเทอร์เน็ตพุ่ง 346 คดี พบเหยื่อถูกหลอกลวง-คุกคาม
คนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 63 ล้านคน โอกาสทองของมิจฉาชีพ! ปี 66 กว่า 36 ล้านคน เคยถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ 50% ตกเป็นผู้เสียหาย ปี 67 เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางอินเทอร์เน็ต 346 คดี สสส. สานพลังภาคีเครือข่าย 50 องค์กร จัดงาน “Safer Internet Day Thailand 2025” ชวนทุกภาคส่วน ร่วมสร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 68 ที่อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พรรษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่าย 50 องค์กร เปิดงาน Safer Internet Day Thailand 2025 (SIDTH 2025) ภายใต้แนวคิด “Together for a Safer Internet” ชวนทุกภาคส่วน มาร่วมกัน สร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน เนื่องในวันอินเทอร์เน็ตปลอดภัยแห่งชาติ ปี 2568
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจาก We Are Social ดิจิทัลเอเจนซีระดับโลก ระบุว่า คนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 63 ล้านคน คิดเป็น 88% เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ในรอบ 10 ปี สะท้อนให้เห็นว่าสื่อออนไลน์ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนทุกช่วงวัย และเป็นโอกาสทองของมิจฉาชีพ ที่สามารถเข้าถึงตัวได้ทุกที่ทุกเวลา
จากรายงานผลการสำรวจสถานการณ์การถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ ปี 2566 โดยคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบคนไทยกว่า 36 ล้านคน เคยถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ และกว่า 50% ตกเป็นผู้เสียหาย และข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 1441 (AOC) มีประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวงจำนวน 1,375,908 สาย (เฉลี่ย 3,149 สายต่อวัน)
ขณะเดียวกันสถานการณ์การคุกคามทางเพศเด็กและเยาวชนบนออนไลน์ยังน่ากังวล ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยสถิติคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางอินเทอร์เน็ตได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2565 โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2567 มี 346 คดี ในจำนวนนี้เด็กอายุ 8-14 ปี ตกเป็นผู้เสียหายมากสุด 125 คน
สสส. มุ่งสร้างสังคมแห่งการรู้เท่าทันสื่อ ส่งเสริมพลเมืองใช้สื่อสร้างสรรค์ ผ่านการยกระดับทักษะเท่าทันสื่อดิจิทัลให้กับประชาชนทุกกลุ่มวัย ควบคู่กับการพัฒนากลไกเฝ้าระวังตรวจสอบสื่ออย่างมีส่วนร่วม การส่งเสริมการจัดการความรู้ และการขับเคลื่อนกลไกเชิงนโยบายเพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อสุขภาวะที่สมดุลและยั่งยืน
“เนื่องในวันอินเทอร์เน็ตปลอดภัยแห่งชาติ ปี 2568 สสส. สานพลังภาคี 50 องค์กร จัดงาน SIDTH 2025 โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10-11 ก.พ. 2568 มีเวทีสัมมนาวิชาการกว่า 20 ห้อง และการจัดแสดงนิทรรศการสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์สำหรับทุกคน ที่บริเวณลานทางเชื่อมบีทีเอส ชั้น 3 สยามสแควร์วัน คาดว่าจะมีประชาชนร่วมงานไม่น้อยกว่า 100,000 คน” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว
นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า งาน SIDTH 2025 มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างกลไกของรัฐบาลในการปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยออนไลน์ ภายในงานครั้งนี้จะนำข้อสรุปจากเวที ASEAN ICT Forum 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2567 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ว่าด้วยเรื่องบทบาทของแพลตฟอร์มดิจิทัลในการจัดการกับปัญหาการล่วงละเมิดและแสวงประโยชน์ทางเพศต่อเด็กในสภาพแวดล้อมออนไลน์ (OCSEA : Online Child Sexual Exploitation and Abuse) มาต่อยอด
โดยการปกป้องเด็กในโลกดิจิทัลจำเป็นต้องมีการปฏิรูปนโยบายและกฎหมายที่เข้มแข็ง เสริมสร้างความร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ พร้อมส่งเสริมให้เด็กและครอบครัวมีความรู้เท่าทันภัยออนไลน์ การทำงานร่วมกันอย่างจริงจังทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติจะช่วยป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า ปัญหาการล่อลวงและค้าสื่อลามกอนาจารเด็กมีความรุนแรงมากขึ้น เหยื่อเด็กมีอายุน้อยลง และจำนวนคดีก็เพิ่มมากขึ้นถึงขั้นที่เจ้าหน้าที่ทำงานไม่ทัน การผลักดันกฎหมายเชิงป้องกันและการจัดการ จับคนร้ายที่มีพฤติกรรมเข้าหาเด็กเพื่อละเมิดทางเพศ จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับนานาประเทศ อีกทั้ง เรื่องการพนัน บุหรี่ไฟฟ้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังคงเป็นปัญหาที่รุนแรง สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวาง ผู้สูงอายุที่ตกเป็นเหยื่อหลายรายหมดตัว ป่วยซึมเศร้า และถึงขั้นทำร้ายตัวเอง
งาน SIDTH 2025 ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะมาร่วมกันเสริมสร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน มุ่งสื่อสารให้ประชาชนมีองค์ความรู้รับมือภัยออนไลน์ทุกรูปแบบ และมีขีดความสามารถ ในการใช้สื่อออนไลน์แบบ 3S คือ SAFE รู้จักปกป้องตนเองจากภัยออนไลน์รูปแบบต่างๆ SMART ฉลาดใช้งานในทางสร้างสรรค์ เกิดประโยชน์ สร้างงาน สร้างอาชีพ และนวัตกรรมใหม่ๆ STRONG มีความเข้มแข็งรับมือกับปัญหา ฟื้นฟูเยียวยาได้ มีภูมิคุ้มกัน
ในงานยังมีพิธีประกาศเจตนารมณ์ เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ ของหน่วยงานภาคีเครือข่ายจาก 3 ภาคส่วน ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่จะมุ่งมั่นทำงานร่วมกันเพื่อเด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นบนโลกออนไลน์ ผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาวิชาการ ลงทะเบียนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย