กรมอนามัย ตั้งเป้าลดการคลอดก่อนกำหนดของหญิงไทย หนุนฝากครรภ์โดยเร็วก่อน 12 สัปดาห์
กรมอนามัย ตั้งเป้าหมายลดการคลอดก่อนกำหนดของหญิงไทย พร้อมสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพ เพื่อดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด หนุนหญิงตั้งครรภ์ารับการฝากครรภ์โดยเร็วก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อคัดกรองโรคที่มีผลต่อการคลอดก่อนกำหนด
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การคลอดก่อนกำหนดเป็นภาวะที่ทารกยังพัฒนาอวัยวะต่าง ๆ ได้ไม่สมบูรณ์เต็มที่ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงและอันตรายหลายด้าน อาทิ ปอดของทารกที่คลอดก่อนกำหนดมักจะยังสร้างสารลดแรงตึงผิวได้ไม่เพียงพอ ทำให้ปอดขยายตัวได้ยาก เกิดภาวะหายใจลำบากและอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิตยังไม่สมบูรณ์ ทำให้ควบคุมความดันโลหิตได้ยาก อีกทั้งยังสัมพันธ์กับการให้นมแม่ เพราะทารกที่คลอดก่อนกำหนด มักต้องได้รับการดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤตทารกแรกเกิด ทำให้แม่และลูกไม่สามารถอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ส่งผลต่อความถี่และระยะเวลาในการให้นม การประสานงานของการดูด กลืน และหายใจยังไม่ดี ทำให้ดูดนมได้ไม่ต่อเนื่อง เหนื่อยง่าย และเสี่ยงต่อการสำลัก
พญ.อัมพร กล่าวอีกว่า กรมอนามัยมีภารกิจในการส่งเสริมสุขภาพประชาชนทุกช่วงวัย ซึ่งต้นน้ำของการมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เริ่มต้นตั้งแต่ตั้งครรภ์ สำหรับประเทศไทยอัตราการคลอดก่อนกำหนดในประเทศไทย ยังเกินเกณฑ์เป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงสนับสนุนให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฝากครรภ์โดยเร็วก่อน 12 สัปดาห์ มุ่งเน้นให้บริการตามมาตรฐานอนามัยแม่และเด็ก ให้ความรู้หญิงตั้งครรภ์ สร้างความตระหนักรู้เรื่องอันตรายและสัญญาณเตือนที่ต้องมาโรงพยาบาล
รวมถึงการเฝ้าติดตาม สนับสนุน ให้การช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ เน้นย้ำการตรวจคัดกรองโรคที่มีผลต่อการคลอดก่อนกำหนด และการบริหารระบบการส่งต่อการดูแลที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ยังเป็นการน้อมนำพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ในการพัฒนางานแม่และเด็กภายใต้โครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ ปี 2567 – 2570 สำหรับการเฉลิมฉลองวันอนามัยโลก ปี 2025 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา จัดขึ้น ภายใต้กรอบแนวคิด “สุขภาพทารกที่ดี คือ จุดเริ่มต้นของความหวังและอนาคตที่สดใส” ร่วมกับ องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย
ด้านนพ.ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมว่า การเฉลิมฉลองวันอนามัยโลกในปี 2568 กรมอนามัย เน้นเพิ่มการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health literacy) ของมารดาและครอบครัว เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้วางนโยบายเพื่อพัฒนานโยบายการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและพัฒนาร่วมกัน ระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) สำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA)
สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วย อภิปราย การส่งเสริมความร่วมมือ สนับสนุนผลักดันนโยบายในการพัฒนาการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด การสื่อสารนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันและลดการคลอดทารกก่อนกำหนด ให้แก่บุคลากรสาธารณสุข และสังคมได้รับทราบและตระหนักรู้ เพื่อพร้อมใจกันในการร่วมมือแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้ร่วมอภิปราย ได้แก่ ดร. โอลิเวียร์ นีเวรัส เจ้าหน้าที่การแพทย์ด้านโรคไม่ติดต่อ องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย คุณจตุพร เอมพันธ์ เพจนมแม่แฮปปี้ นพ.อัครวัฒน์ เพียวพงภควัต ผู้อำนวยการกองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ เป็นผู้ดำเนินรายการ