สธ.ใช้ AI ตรวจจับแจ้งเตือนคู่ยา ช่วยแพทย์สั่งจ่ายยาปลอดภัย เตรียมขยายผล รพ.ทุกระดับภายใน ก.ย.นี้
สธ. ใช้ AI ตรวจจับและแจ้งเตือนการใช้ยาใน 11 รพ.นำร่อง พบคู่ยาที่ใช้ร่วมกันแล้วส่งผลกระทบ 3,826 ครั้ง โดยมีคู่ยาที่ห้ามใช้ร่วมกัน 1,676 ครั้ง และหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกันเพราะอาจเสี่ยงถึงชีวิต 2,150 ครั้ง ช่วยแพทย์สั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วยได้ปลอดภัย เตรียมพัฒนาระบบรุ่น 2 ขยายผล รพ.ทุกระดับภายในกันยายน นี้
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาระบบ AI Drug Interaction ซึ่งเป็นการใช้ AI ตรวจจับและแจ้งเตือนคู่ยาที่ใช้ร่วมกันแล้วส่งผลกระทบ เช่น ทำให้ฤทธิ์ของยาเพิ่มขึ้นหรือลดลง เกิดผลข้างเคียงมากขึ้น หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต รวมถึงแจ้งเตือนยาที่แพ้และยาที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลของสถานพยาบาลในสังกัด กับฐานข้อมูลคู่ยาที่ทำปฏิกิริยาระหว่างกัน และฐานข้อมูลการแพ้ยาและยีนแพ้ยา
ซึ่งเมื่อระบบตรวจสอบพบจะทำการแจ้งเตือนแพทย์ในการสั่งจ่ายยา เช่น ผู้ป่วยที่ได้รับยาลดไขมันในเลือด Simvastatin ระบบจะแจ้งเตือนว่า การใช้ร่วมกับยาต้านไวรัส Ritonavir อาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อโรคกล้ามเนื้อหรือการสลายตัวของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น เป็นต้น ทำให้ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาหลายชนิดพร้อมกัน หรือผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษากับสถานพยาบาลหลายแห่งมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า จากการนำร่อง AI Drug Interaction รุ่นแรกในโรงพยาบาลของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 25 แห่ง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ขณะนี้ทดสอบระบบสำเร็จแล้ว 11 แห่ง มีจำนวนยาที่ใช้ทั้งหมด 89,575 รายการ ระบบการตรวจจับและแจ้งเตือนคู่ยา 2,384 คู่ พบการดักจับและแจ้งเตือนคู่ยา ที่หากใช้ร่วมกันแล้วจะเกิดผลกระทบ จำนวน 3,826 ครั้ง โดยมีคู่ยาที่ห้ามใช้ร่วมกัน 1,676 ครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกันเพราะอาจเสี่ยงถึงชีวิต 2,150 ครั้ง ช่วยให้แพทย์สั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
โดยหลังจากนี้จะมีการพัฒนาระบบรุ่น 2 ที่สามารถตรวจสอบคู่ยาที่ส่งผลกระทบระหว่างยาที่เคยใช้เดิมกับยาในปัจจุบัน ประวัติการแพ้ยา ยีนแพ้ยา รวมถึงพัฒนาการแจ้งเตือนในระบบหมอพร้อมให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลของตนเองด้วย และขยายผลการใช้งานให้ครอบคลุมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ภายในเดือนกันยายน 2568 นี้