สธ.ร่วมท้องถิ่น-เอกชน รวมพลังดูแลช่องปากผู้สูงวัย ด้านกรมอนามัย เผยปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ ยังขาดการเข้าถึงบริการทันตกรรม โดยเฉพาะพื้นที่ชนบท พบช่วงอายุ 80-85 ปีเหลือฟันถาวรเพียง 11.7 ซี่ต่อคน มีเพียง 27.7% มีฟันใช้งานอย่างน้อย 20 ซี่ ตั้งเป้าคนไทย ต้องเข้าถึงบริการทันตกรรมครอบคลุม 3 สิทธิสุขภาพ

วันที่ 20 มิ.ย. 68 นายสราวุธ อ่อนละมัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “สุขภาพช่องปากดี ณ ตำบลหนองปรง” พร้อมด้วย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย นพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ดาบตำรวจสนธยา คงสนิท นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรง ร่วมงาน ณ ลานกีฬาอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี

ตั้งเป้าคนไทยเข้าถึงบริการทันตกรรม 3 สิทธิสุขภาพ
นายสราวุธ อ่อนละมัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพช่องปากที่ดีเป็นรากฐานของสุขภาพองค์รวม ดังนั้น การส่งเสริมสุขภาพช่องปากประชาชนอย่างเท่าเทียม จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายของรัฐบาล เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงบริการทันตกรรมผ่านสิทธิการรักษาพยาบาลที่มี 3 ระบบใหญ่ คือ สิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท สิทธิประกันสังคม และสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ แม้ว่าจะมีการพัฒนาบริการสุขภาพช่องปากในหลาย ๆ ด้าน แต่ก็ยังมีอุปสรรค ข้อจำกัด และความไม่สมดุลในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล กลุ่มคนที่ขาดโอกาส ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลช่องปาก

ดังนั้น การพัฒนาระบบบริการสุขภาพช่องปากของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการบูรณาการร่วมกับสุขภาพด้านอื่น ๆ พร้อมทั้งจัดระบบการดูแลสุขภาพช่องปากที่ต้องมากกว่าระบบปกติ เพื่อให้ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ สามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพและเท่าเทียมกัน ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาทางทันตกรรมในระยะยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เปิดปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงวัย
ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยมีความมุ่งมั่นทำหน้าที่ในการเชื่อมประสาน และจัดการให้ทุกภาคส่วนได้จัดระบบบริการสุขภาพช่องปากแบบบูรณาการภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม โดยปัจจุบันพบว่าผู้สูงอายุในช่วงวัย 80–85 ปี มีจำนวนฟันถาวรเฉลี่ยเพียง 11.7 ซี่ต่อคน และมีเพียงร้อยละ 27.7 ที่ยังมีฟันใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ ปัญหานี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ยังคงมีความต้องการด้านบริการทันตกรรม แม้จะได้รับการดูแลจากหน่วยงานในพื้นที่แล้วก็ตาม

นพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีที่พื้นที่ตำบลหนองปรงได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยและภาคีเครือข่าย ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุผ่านกิจกรรมเชิงรุก และหวังว่าจะเป็นต้นแบบของความร่วมมือในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

ดาบตำรวจสนธยา คงสนิท นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรง กล่าวถึงความภาคภูมิใจที่ตำบลหนองปรงได้รับคัดเลือกให้เป็นพื้นที่ดำเนินกิจกรรมครั้งนี้ และขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมมือกันผลักดันให้ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ได้รับบริการด้านสุขภาพช่องปากอย่างทั่วถึง พร้อมยืนยันว่าองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรงพร้อมให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมสุขภาพแก่ประชาชนในทุกมิติ

ทพ.ดำรง ธำรงเลาหะพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมรณรงค์ในครั้งนี้มุ่งเน้นการดูแลเชิงรุก ครอบคลุมทั้งการส่งเสริม ป้องกัน และรักษา ประกอบด้วยการตรวจประเมินสุขภาพช่องปาก การคัดกรองเพื่อรับบริการฟันเทียม การให้บริการทันตกรรม ณ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด และการให้บริการอุดฟันด้วยเทคนิค ART ในเด็กปฐมวัย ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองปรง อีกทั้งยังมีการจัดนิทรรศการต่าง ๆ อาทิ การให้ความรู้เรื่องโรคและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก สิทธิประโยชน์ทางทันตกรรม การถ่ายภาพในช่องปาก แอพพลิเคชัน ‘รักยิ้ม’ รวมถึงนิทรรศการสถานีสุขภาพ (Health Station) นับคาร์บและกิจกรรมทางกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 400 คน