กรมแพทย์แผนไทยฯ เทสระบบ “ใบสั่งจ่ายกัญชา” ครั้งแรก 9 ก.ค. เริ่มผู้ป่วย 50 ราย

กรมแพทย์แผนไทยฯ เทสระบบ “ใบสั่งจ่ายกัญชา” ครั้งแรกพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เริ่มใช้ผู้ป่วย 50 ราย พร้อมจัดอบรมวิชาชีพ 16 ก.ค. นี้ ล่าสุดแพทย์แผนไทยลงทะเบียนแล้ว 1 พันคน ส่วนแพทย์แผนปัจจุบันรอรายชื่อ ส่วนผู้จำหน่าย จัดอบรม 17 ก.ค. ตั้งเป้า 8 หมื่นคน รองรับ 1.8 ร้านค้าทั่วประเทศก่อนกฎกระทรวงฯใหม่ออกปีนี้ ทุกร้านต้องเป็นสถานพยาบาล
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 68 ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง “กัญชาทางการแพทย์” โดยนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ยื่นข้อเสนอถึงสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข โดยหลักการย้ำว่า กัญชา ยังไม่เป็นยาเสพติด แต่มาตรการควบคุมต้องมี เนื่องจากผลกระทบยังมี เพราะมีผู้ร้องเรียน อย่างการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า หรือราว 1.5 ล้านคน
โดยสถานการณ์การใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากประกาศกัญชาไม่เป็นยาเสพติด สิ่งเหล่านี้เกิดความไม่สบายใจในสังคมจึงต้องเกิดมาตรการต่างๆในการควบคุมและออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุขโดยกำหนดให้กัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่มีแพทย์คอยควบคุม และมีการประกาศในเรื่องของการให้กัญชามีแหล่งผลิตที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน
กรมฯเตรียมทำหนังสือถึงสตช.แนวปฏิบัติกัญชา
นายกองตรีธนกฤต กล่าวอีกว่า ขณะนี้จึงมีสองมาตรการที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยมีประกาศในปี 2565 หลังจากนั้นเพื่อการควบคุมให้ได้มาตรฐาน จึงมีประกาศสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568 เพื่อการใช้กัญชาทางการแพทย์ โดยการสั่งจ่ายยาจากแพทย์ 7 วิชาชีพตามประกาศ รวมถึงควบคุมแหล่งผลิตที่มีมาตรฐานการปลูก เพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค นอกจากนั้น กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ออกประกาศแบบสั่งจ่ายสมุนไพรควบคุม(กัญชา) ที่เรียกว่า ภ.ท.33 เพื่อให้ร้านขายกัญชาขายตามใบสั่งแพทย์ เพื่อให้มีการตรวจสอบที่มากัญชาและการจำหน่ายออกไป โดยได้จัดทำแบบฟอร์มให้ร้านค้าอยู่ในเงื่อนไขของกรมเพื่อให้ตรวจสอบที่มาและการจำหน่ายและผู้ที่เกี่ยวข้องได้
“ย้ำว่าขณะนี้ไม่มีนโยบายให้ร้านค้าที่เปิดอยู่แล้ว 18,000 แห่งได้รับผลกระทบหรือเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะทำความเข้าใจกับร้านค้า ตลอดจนถึงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร่วมสร้างความเข้าใจด้วย โดยท่านอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ จะทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เข้าใจถึงแนวปฏิบัติต่อผู้ครอบครองกัญชาว่าแบบใดที่ถูก และที่ผิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน” นายกองตรีธนกฤต กล่าว

อบรม “แพทย์แผนไทย-แพทย์แผนปัจจุบัน” 16 ก.ค.
ด้าน นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ขณะนี้กรมกำลังเตรียมอยู่ 2 เรื่อง คือ กัญชาต้องมีมาตรฐานเพียงพอและแพทย์ที่จะสั่งจ่ายต้องมีจำนวนเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันมีแปลงปลูกที่ต้องผ่านมาตรฐาน Thailand Canabis GACP จำนวน 69 แปลง โดยเป็นช่อดอกแห้ง 71,850 กิโลกรัมต่อปี และส่งออก 24,000 กิโลกรัมต่อปี ขณะที่ร้านค้ามีจำนวน 18,651 ร้านค้า ส่วนปริมาณการบริโภคภายในประเทศ 47,850 กิโลกรัมต่อปี ส่วนตัวเลขแปลงที่รอการประเมินพบว่า 51 แห่งจะเสร็จไม่เกิน1-2 เดือนนับจากนี้ ซึ่งจะเติมกัญชาจากแหล่งปลูกเข้ามาอีก 125,000 กิโลกรัมต่อปีและส่งออกอีกประมาณ 41,000 กิโลกรัมต่อปี โดยจะมีแปลงปลูกทั้งหมดที่ผ่านมาตรฐานทั้งหมด 120 แห่ง จะมีประมาณ 3-4 พันแห่งที่ไม่ผ่านมาตรฐาน GACP
นพ.สมฤกษ์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญกรมฯ กำลังจัดการอบรมเพื่อเตรียมกลุ่มวิชาชีพในการสั่งจ่ายสมุนไพรควบคุม(กัญชา) ขณะนี้กำหนดให้ 2 วิชาชีพจาก 7 กลุ่มวิชาชีพ มี “แพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทย” โดยกรมฯ ตั้งเป้าว่าต้องมีแพทย์แผนไทยจำนวน 2,000 คน ที่ผ่านหลักสูตรและสามารถวินิจฉัยกลุ่มอาการและออกใบสั่งจ่ายกัญชาได้ ส่วนแพทย์แผนปัจจุบัน กำหนดจำนวนแพทย์ 1 คน ต่อ 1 จังหวัด อย่างในกรุงเทพฯ จะมีหลายพื้นที่หลายเขตจะต้องมีแพทย์ประมาณ 30-40 คน
“การอบรมครั้งแรกในเดือน ก.ค.นี้ แบ่งเป็นอบรมวิชาชีพ เป็นแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน กำหนดวันที่ 16 ก.ค.นี้ เบื้องต้นมีแพทย์แผนไทยลงทะเบียนแล้ว 1,000 คน ส่วนแพทย์แผนปัจจุบันกำลังรอรวบรวมรายชื่อ ส่วนผู้จำหน่ายตามร้านค้าก็ต้องอบรมเช่นกัน ปัจจุบันร้านค้ามี 18,000 แห่ง มีผู้จำหน่ายอยู่ประมาณ 200,000 คน แต่เราตั้งเป้าให้ได้ 80,000 คนจากร้านค้าทั้งหมด โดยอบรมครั้งแรก 17 ก.ค.นี้ ทั้งออนไซด์และ ออนไลน์” นพ.สมฤกษ์ กล่าว และว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาหลังมีการออกประกาศสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ได้ออกตรวจร้านกัญชา 1,565 ร้าน ในจำนวนนี้ถูกพักใช้ใบอนุญาต 82 ร้าน เพิกถอน 5 ร้าน ปิดกิจการ 322 ร้าน และถูกดำเนินคดี 7 ร้าน
อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นต่อร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการอนุญาตจำหน่ายสมุนไพรควบคุมช่อดอกกัญชา ผ่านเว็บไซต์กลางทางกฎหมาย หรือ LAW โดยจะปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 12 ก.ค 2568 ซึ่งจะเป็นการกำหนดระเบียบต่างๆ โดยเฉพาะร้านค้า ต้องมีแพทย์ประจำ ซึ่งตามขั้นตอนต่างๆ ร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวจะบังคับใช้ได้ไม่เกินปีนี้
ร่างกฎกระทรวงฯใหม่บังคับร้านค้า เป็นสถานพยาบาล
“หากกฎกระทรวงฯ ควบคุมร้านค้ามีผลบังคับใช้ภายในปีนี้เมื่อใด ย่อมหมายถึงร้านค้านั้นๆ จะต้องมีแพทย์ประจำ หรือพูดง่ายๆ จากสถานประกอบการเป็นสถานพยาบาล แต่ระหว่างนี้เมื่อยังไม่บังคับใช้ ให้ใช้เป็นใบสั่งจ่ายสมุนไพรควบคุมแทน โดยวิชาชีพที่ต้องผ่านการอบรมจากกรมฯเท่านั้น” นพ.สมฤกษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนจะทราบได้อย่างไรว่า จะไปหาแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนไทยที่ไหนที่จะยอมจ่ายใบสั่งจ่าย นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า กรมฯจะจัดอบรม ซึ่งวันที่ 16 ก.ค.นี้จะได้แพทย์แผนไทยชุดแรก 1 พันคน ขณะนี้กำลังหารือว่า จะทำระบบไอที ให้ร้านค้ามาใช้ในเรื่องข้อมูลการใช้ช่อดอกกัญชา การมีใบสั่งจ่าย เป็นต้น และในวันพรุ่งนี้(8 ก.ค.) กรมฯจะทดสอบระบบผู้ป่วย 50 รายแรกมารับบริการ และใช้ใบสั่งจ่ายสมุนไพรควบคุม(กัญชา) หรือ ภ.ท.33 ส่วนประชาชนจะทราบได้อย่างไรว่า มีแพทย์ที่ไหนยอมออกใบสั่งจ่ายนั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาจัดทำระบบ แต่ต้องขอให้ได้รายชื่อวิชาชีพที่ผ่านการอบรมก่อน
เมื่อถามกรณีการใช้ระบบเทเลเมดิซีนกรณีใบสั่งจ่าย นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า ที่กำลังทำได้รวมระบบเทเลเมดิซีนด้วย ซึ่งจะเป็นในส่วนทั้งโรงพยาบาลและคลินิก แต่กำลังวางระบบอยู่