“สมศักดิ์” ชูประโยชน์นับคาร์บ เริ่มเห็นผล! ยกผู้ป่วย NCDs หยุดยา – ลดยาได้กว่า 5 หมื่นคน ประหยัดงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยัง ต.โพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุขภายใต้หลักการ “อสม. มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs” โดยมี นายทวีศักดิ์ ทรงอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ภก.วีระชัย นลวชัยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 10 ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข อสม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน

โครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข เกิดขึ้นภายใต้หลักคิด “อสม. มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทย ห่างไกล NCDs”เป็นการบูรณาการงานด้านการแพทย์ การสาธารณสุข และเครือข่ายภาคประชาชนอย่าง อสม.เข้าด้วยกัน เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างครอบคลุม เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ เท่าเทียม ทั่วถึง ทุกช่วงวัย

การส่งเสริมการนับคาร์โบไฮเดรต หรือ “นับคาร์บ” เป็นกลไกสำคัญในการปรับพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน ลดความเสี่ยงของโรค NCDs และส่งเสริมสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าใจ และสามารถนับคาร์โบไฮเดรตที่บริโภคในแต่ละมื้อได้อย่างเหมาะสม เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะ NCDs คือความท้าทายทางสาธารณสุข ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องดำเนินการให้เห็นผล อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และจนถึงขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้นับคาร์บได้แล้วกว่า 37.19 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 74.39 ซึ่งเขตสุขภาพที่ 5 นับได้เกิน 100 เปอร์เซ็นแล้ว ส่วนเขตสุขภาพที่ 8 และ 10 นับได้กว่า ร้อยละ 80 แล้ว คาดว่าเป้าหมาย 50 ล้านคน ในเดือนก.ย.นี้ เป็นไปได้อย่างแน่นอน

“ประโยชน์ของการนับคาร์บเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม จากที่มีผู้เข้าสู่การรักษา NCDs 223,492 คน มีผู้ที่สามารถหยุดยาได้ 3 เดือน 20,741 คน หยุดยาได้ระยะแรก 14,715 คน รวมหยุดยาได้ 35,456 คน ส่วนผู้ที่ลดยาลง 23,597 คน ดังนั้น จะทำประหยัดใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลลง 603.48 ล้านบาท ต่อปี ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เรามาถูกทางและเราต้องเดินหน้าต่อเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย”นายสมศักดิ์กล่าว