กรมอนามัยชูแนวคิดวิถีชีวิตสุขภาวะ จัดงานใหญ่ Lifestyle for Well-being in the Future เชิดชูเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เขตสุขภาพที่ 9 ร่วมแก้ปัญหากับพื้นที่ ทั้งภาวะโลหิตจางในสตรีและเด็ก พัฒนาการของเด็กปฐมวัย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต การดูแลสุขภาพพระสงฆ์และสถานชีวาภิบาล ฯลฯ

วันที่ 25 ส.ค. 68 ที่โรงแรมเซนเตอร์พอยต์ เทอมินอล 21 จ.นครราชสีมา พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังเปิดงานมหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเชิดชูเกียรติเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เขตสุขภาพที่ 9 ภายใต้หัวข้อ “Lifestyle for Well-being in the Future” ว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการอภิบาลระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของประเทศ โดยมีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ระยะ 5 ปี พ.ศ.2566-2570 ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาล และสถานการณ์ภาวะสุขภาพของประชาชน

ศูนย์อนามัยที่ 9 ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างเข้มแข็งให้สอดรับและบรรลุเป้าหมาย รวมทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญ คือ ภาวะโลหิตจางในสตรีและเด็ก พัฒนาการของเด็กปฐมวัย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต การดูแลสุขภาพพระสงฆ์และสถานชีวาภิบาล รวมถึงประเด็นอนามัยสิ่งแวดล้อม อาหารปลอดภัย น้ำสะอาด อากาศดี และสถานีสุขภาพ (Health Station) ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยการมีวิถีชีวิตเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบการดำเนินชีวิตส่งเสริมสุขภาพกาย สังคม และจิตปัญญา รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน โดยเน้นการสร้างสมดุลในทุกด้านของชีวิต การส่งเสริมสุขภาพให้ห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs เป็นเรื่องการมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ และทำอย่างต่อเนื่อง ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสังคมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

นพ.พีระยุทธ สานุกูล ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา จึงจัดงานมหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเชิดชูเกียรติเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เขตสุขภาพที่ 9 ภายใต้หัวข้อ “Lifestyle for Well-being in the Future” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเชิดชูเกียรติแก่ภาคีเครือข่ายในเขตสุขภาพที่ 9 โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหาร นักวิชาการ และบุคลากร จากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน รวมประมาณ 180 คน รางวัลประกอบด้วย โล่รางวัลหน่วยงาน และบุคคลต้นแบบ จำนวน 82 รางวัล เกียรติบัตรจำนวน 41 รางวัล รวม 123 รางวัล