ประโยชน์และสรรพคุณของ “ข่า”
“ข่า” เป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มักปลูกเป็นผักสวนครัวและถูกนำมาใช้ทำอาหาร โดยเฉพาะเมนูอาหารไทยประเภทต้มต่างๆ แทบจะเห็นตลอด เพราะตัวข่านั้นช่วยแต่งกลิ่นอาหาร ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี วันนี้เรามาพูดถึงประโยชน์ของมันกัน
ประโยชน์และสรรพคุณของข่า
– ช่วยให้เจริญอาหาร
– ช่วยขับลม แก้อาการไอ เจ็บคอ ขับเสมหะ
– ช่วยให้ย่อยอาหาร ลดการบีบตัวของลำไส้
– ใช้รักษาโรคกลาเกลื้อนได้
– มีคุณค่าทางโภชนาการ
– ช่วยรักษาอาการข้ออักเสบได้
– มีฤทธิ์ยับยั้งแผลในกระเพาะอาหาร
– สามารถต้านเซลล์มะเร็งได้
– ผงจากผลแห้งสามารถนำมาใช้รักษาอาการปวดฟันได้ ด้วยการนำผลไปบดแล้วนำมาทาบริเวณที่ปวด
– ใช้เป็นยาแก้ท้องขึ้น ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ท้องเดิน ด้วยการใช้เหง้าข่าแก่สด ยาวประมาณ 1 นิ้วฟุต นำมาตำจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส ใช้น้ำยาดื่มครั้งละครึ่งแก้ว หลังอาหาร วันละ 3 เวลา
– น้ำมันหอมระเหยจากข่ามีประโยชน์อย่างมากต่อระบบทางเดินหายใจ จึงมีส่วนช่วยแก้อาการหวัด ไอ และเจ็บคอได้เป็นอย่างดี
– ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือ ด้วยการใช้เหง้าข่าแก่สด ยาวประมาณ 1 นิ้วฟุตนำมาตำจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส ใช้น้ำยาดื่มครั้งละครึ่งแก้ว หลังอาหาร วันละ 3 เวลา
– มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ
– ช่วยทำลายสารพิษที่ตกค้างในลำไส้
– รักษากลากเกลื้อน ด้วยการใช้เหง้าแก่เท่าหัวแม่มือ นำมาตำจนละเอียดผสมกับเหล้าโรง ใช้ทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนบ่อยๆ จนกว่าจะหาย
– แก้ตะคริว เหน็บชา
– บำรุงสมรรถภาพทางเพศ
– แก้อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ อาการปวดบวมตามข้อ ด้วยการใช้ต้นข่าแก่นำมาตำผสมกับน้ำมันมะพร้าวแล้วทาแก้อาการ
– น้ำมันหอมระเหยที่สกัดออกมาจากข่าสามารถใช้กำจัดแมลงได้
ข้อควรระวังในการใช้ข่า
ถึงแม้ ข่า จะมีประโยชน์มากมาย แต่การใช้ประโยชน์ ควรใช้ในปริมาณให้พอเหมาะ และควรศึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้งาน โดยข้อควรระวังในการใช้ ข่า ที่ต้องรู้ คือ
– น้ำมันหอมระเหยจากเหง้าข่า มีความเป็นพิษ หากบริโภคในปริมาณมากเกินไป ทำให้เป็นพิษต่อร่างกาย
– ข่า ทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังได้ ทำให้มีอาการแสบร้อนผิวหนัง ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ควรศึกษาวิธีการใช้งานให้ดี ก่อนใช้ ข่า ในการรักษา