กรมสุขภาพจิต ห่วง! สถานการณ์การเมืองกระทบสุขภาพจิต ชี้ Cyberbullying และ Online Trolling เพิ่มขึ้นจากความเห็นต่างทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แนะปชช.ใช้สื่ออย่างมีวิจารณญาณ

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 68 กรมสุขภาพจิต ชี้สถานการณ์ความเห็นต่างทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่งผลให้พฤติกรรมการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (Cyberbullying) และการก่อกวนทางออนไลน์ (Online Trolling) เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง กรมสุขภาพจิตจึงขอแนะนำให้ประชาชนใช้สื่ออย่างมีวิจารณญาณ และหลีกเลี่ยงการตอบโต้ด้วยความรุนแรง เพื่อร่วมสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัยและเคารพซึ่งกันและกัน

นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่สังคมไทยเผชิญกับความเห็นต่างทางการเมืองอย่างเข้มข้น รวมถึงด้านความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน อาจส่งผลให้การกระทบกระทั่งกันทั้งในสังคมปกติและสังคมออนไลน์ตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง นำไปสู่การเกิดพฤติกรรมการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (Cyberbullying) และ การก่อกวนทางออนไลน์ (Online Trolling) สำหรับ การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ หรือ Cyberbullying เป็นพฤติกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต

โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงเปราะบางทางอารมณ์ พฤติกรรมดังกล่าวอาจอยู่ในรูปของการส่งข้อความข่มขู่ ดูหมิ่น หรือประจานซ้ำ ๆ เช่น การเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต การสร้างบัญชีปลอมเพื่อคุกคาม หรือการกีดกันผู้อื่นออกจากกลุ่มสนทนาออนไลน์ ซึ่งล้วนสร้างความกลัว วิตกกังวล ซึมเศร้า ความรู้สึกโดดเดี่ยว และในบางกรณีอาจกระตุ้นให้เกิดความคิดฆ่าตัวตาย กรมสุขภาพจิตแนะนำให้ผู้ถูกกระทำหลีกเลี่ยงการตอบโต้ด้วย

ความรุนแรงหรือคำหยาบคาย ควรบันทึกหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอหรือข้อความ เพื่อนำไปใช้ประกอบการร้องเรียนต่อผู้ดูแลแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และหากพบว่ามีลักษณะคุกคามรุนแรงถึงขั้นกระทบต่อชีวิต ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ควรแจ้งความต่อ
ตำรวจไซเบอร์ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผ่านเว็บไซต์ www.tcsc.police.go.th

นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า นอกจากการกลั่นแกล้งโดยตรงแล้ว อีกหนึ่งพฤติกรรมที่พบมากขึ้นในช่วงที่สังคมมีความเปราะบางทางความคิด คือ การก่อกวนทางออนไลน์ หรือ Online Trolling ซึ่งมักแฝงอยู่ในรูปแบบของการแสดงความเห็นในลักษณะประชด เสียดสี หรือการตั้งคำถามที่ชวนให้เข้าใจผิด แม้จะไม่ได้มุ่งโจมตีบุคคลใดโดยตรง แต่กลับสร้าง “คลื่นความขัดแย้ง” ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในชุมชนออนไลน์

พฤติกรรมเช่นนี้อาจถูกมองว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นเสรี แต่หากขาดความรับผิดชอบหรือมีเจตนาแอบแฝง ก็อาจส่งผลให้ผู้ใช้งานบางกลุ่มรู้สึกอึดอัด ไม่ปลอดภัย หรือถูกกดดันจนต้องปิดกั้นตนเองจากพื้นที่สนทนาออนไลน์ การก่อกวนที่ต่อเนื่องยังส่งผลให้เวทีสาธารณะขาดความน่าเชื่อถือ และขัดขวางการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในประเด็นละเอียดอ่อน เช่น การเมือง ศาสนา เชื้อชาติ หรือเพศสภาพ

กรมสุขภาพจิตจึงขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่สุภาพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง พร้อมส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ การใช้สื่ออย่างมีวิจารณญาณ และการจัดการอารมณ์ในโลกออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ